
การภาวนา
การภาวนาไม่ได้หมายถึงการหลับตาทำสมาธิ หรือการเดินจงกรมเท่านั้น การภาวนาคือการพากายกับใจมาอยู่ด้วยกัน เราสามารถภาวนาได้เสมอ ทุกที่ ทุกเวลา เราจะอนุญาตให้ตัวเองมีเวลาจิบกาแฟเงียบๆ สัก 10 นาทีได้ไหม ภาวนากับถ้วยกาแฟของเรา ที่ไหนก็ได้ เราอาจจะนั่งเงียบๆ ตรงไหนสักแห่งตามลมหายใจไปพร้อมกับรับรู้สิ่งที่เกิดขึ้น รับรู้ความรู้สึกภายใน รับรู้เสียงภายนอก ปราศจากการต่อสู้และเปลี่ยนแปลง เหล่านี้คือการภาวนา
ลองกลับมารับรู้สิ่งที่เป็นอยู่ทั้งในตัวเราและนอกตัวเรา เราอาจจะพบว่าเรากำลังคิดวุ่นวาย เรากำลังรู้สึกหงุดหงิด เราไม่นิ่งเลย เมื่อเรารับรู้ ยอมรับ และยิ้มได้ นี่คือความสุขจากการภาวนา
ความสุขจากการภาวนา

โคริงกะ…มองเห็นใจตนเองผ่านการจัดดอกไม้สไตล์ญี่ปุ่น
“การจัดดอกไม้แบบโคริงกะเป็นเรื่องของการพัฒนาจิตวิญญาณที่อยู่ด้านใน เราจึงต้องเริ่มจากตัวเราเองก่อน ตั้งแต่ฝึกฝนวิธีจัดดอกไม้จนเห็นการสื่อสารของพืชและเห็นคุณประโยชน์ที่ได้รับจากการจัดดอกไม้ จนกระทั่งเราเริ่มเกิดความมั่นใจว่าพลังธรรมชาตินั้นยิ่งใหญ่และสามารถช่วยทำให้คนมีความสุขได้ เราจึงขยับขึ้นมาเป็นวิทยากรสอนคนอื่นต่อไป” อาจารย์รัตนาภรณ์ ศรีอร่ามมณี หรือครูนุช อธิบายถึงหัวใจสำคัญของการจัดดอกไม้แบบโคริงกะด้วยรอยยิ้มสดใสพร้อมทั้งอธิบายถึงความหมายของคำว่า “โคริงกะ” โดยละเอียดว่า “โค”แปลว่า แสงสว่าง, “ริง” แปลว่า วงกลม ส่วนคำว่า “กะ” มาจากคำว่า ดอกไม้

แผนที่สู่ความสุขบนเส้นทางนพลักษณ์
ช่วงหนึ่งของชีวิตก่อนได้เจอนพลักษณ์ อัญชลี อุชชิน บอกว่าเธอรู้สึกบางช่วงเหมือนตัวเองเป็นคนบ้า มักหงุดหงิดกับเรื่องเล็กๆ แค่เดินเข้าบ้านมาแล้วแม่ถามว่าวันนี้เป็นไงบ้าง หรือย้อนกลับไปถึงตอนเรียนมหาวิทยาลัย เธอเข้าร่วมทำกิจกรรมทางสังคมกับกลุ่มเพื่อนนักศึกษา แต่ขณะเดียวกันก็หวงความเป็นส่วนตัว และเบื่อหน่ายรำคาญกับการต้องเข้าร่วมวงคุยกับใครต่อใคร “คิดว่าเราเป็นโรคประสาทหรือเปล่า ชอบอยู่คนเดียว ไม่ชอบยุ่งกับใครและไม่ชอบให้ใครมายุ่ง แต่เวลาทำกิจกรรมมันมีจุดที่ต้องไปอยู่รวมกัน ไปร่วมประชุม ร่วมแก้ปัญหาสังคม ต้องอยู่ท่ามกลางคนเยอะๆ ต้องคุย ด้านหนึ่งก็อยากเข้าร่วม ด้านหนึ่งก็อยากมีโลกส่วนตัว

รอยยิ้มแห่งความสุขบนเส้นทางภาวนา
“เมื่อก่อนเงื่อนไขในชีวิตเยอะมาก ต้องไปกินข้าวเฉพาะร้านที่ชอบ แต่งตัวดูดีตั้งแต่หัวจรดเท้า หงุดหงิดและโกรธง่ายจนนักศึกษาไม่กล้ามาขอสอบด้วยเพราะขึ้นชื่อว่าดุ” อาจารย์วรวรรณ วัฒนาวงศ์สว่าง หรืออาจารย์แอนประจำภาควิชาวิทยาศาสตร์สื่อความหมายและความผิดปกติของการสื่อความหมาย คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล เริ่มต้นบทสนทนาด้วยการย้อนอดีตก่อนค้นพบหนทางเปลี่ยนแปลงตนเอง “ตอนนี้เงื่อนไขในชีวิตลดลง โกรธน้อยลง ฟุ่มเฟือยน้อยลง ความอยากน้อยลง ทุกข์น้อยลง วิธีการพูดกับคนอื่นและวิธีแต่งตัวต่างไปจากเดิมเลย”

ภารกิจเตรียมตัวตายอย่างมีความสุขกับชายหนุ่มชื่อ “มาร์ท”
ถ้าคุณรู้ตัวว่ากำลังจะตาย หรือคนที่คุณรักกำลังจะตาย คุณจะรู้สึกอย่างไร ความกลัวมักเป็นความรู้สึกแรกที่มาเยือน ตามมาด้วยความเศร้า สัญลักษณ์ของความตายจึงเป็น “สีดำ” และ “ควันธูป” ไม่มีใครอยากเอ่ยถึงความตายเพราะกลัวเป็นลางร้ายของชีวิต ความตายจึงเป็นสิ่งที่มนุษย์ทำใจยอมรับได้ยากมากที่สุด และคงจะยากมากขึ้นไปอีกหากต้องเปลี่ยนมุมมองต่อความตายจาก “ความเศร้า” เป็น “ความสุข”

ลมหายใจแห่งความสุข ณ ต้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลง
ทุกคนเกิดมาย่อมอยากมีชีวิตที่มีความสุข แต่ดูเหมือนความสุขมักจะอยู่กับเราประเดี๋ยวประด๋าวแล้วก็จากไป ขณะที่ความทุกข์หมุนเวียนเข้ามาแทนที่ความสุขอย่างรวดเร็ว และอยู่กับเรานานกว่าความสุข หลายคนจึงพยายามวิ่งไขว่คว้าหาความสุขมาเติมเต็มชีวิตอยู่เสมอ แต่ทว่า ยิ่งเติมมากเท่าไหร่ ความสุขก็ยังไม่เต็มสักที นั่นเป็นเพราะเรากำลังไขว่คว้าหาความสุขภายนอก โดยที่ไม่เคยรู้ว่า ยังมีความสุขอีกรูปแบบหนึ่งที่ไม่ต้องวิ่งไขว่คว้า เพราะเป็นความสุขจากภายในที่ซ่อนอยู่ในตัวมนุษย์ทุกคนตลอดเวลา นั่นคือ ความสุขจากการอยู่กับลมหายใจปัจจุบันของเรานั่นเอง
การหายใจ (ปราณายามะ) : เพื่อพลังชีวิตทั้งกายและใจ
“การหายใจ” คือ สิ่งจำเป็นอย่างยิ่งของสิ่งมีชีวิตตั้งแต่แรกเกิดตราบจนลมหายใจสุดท้ายของชีวิต การหายใจของคนเราโดยทั่วไปมักเป็นไปตามระบบอัตโนมัติของร่างกาย ที่บางครั้งราบรื่น บางครั้งติดขัด บางครั้งถึงกับสะดุดหยุดลง เช่นในยามที่ตื่นเต้น ตกใจ หรือช็อค ใน 1 นาที คนเราจะหายใจราว 15 ครั้ง (21,600 ครั้ง ใน 1 วัน)