ความสัมพันธ์
ในความเป็นมนุษย์เราต่างมีปฏิสัมพันธ์กัน พร้อมกันนั้นความสัมพันธ์ก็สร้างทั้งทุกข์และสุขให้แก่เรา เรามักให้อภัยคนอื่นได้ง่ายกว่าให้อภัยคนในครอบครัว และเราเจ็บช้ำกว่าเมื่อถูกทำร้ายโดยคนใกล้ตัว ความสัมพันธ์ที่เข้าอกเข้าใจทั้งตัวเราและผู้อื่นจึงเป็นช่องทางเข้าถึงความสุขในระยะยาวได้จนถึงบั้นปลายของชีวิต
เครื่องมือสำคัญชิ้นหนึ่งสำหรับดูแลความสัมพันธ์คือทักษะการฟัง วางความคิด คำแนะนำ คำตอบของเราลงก่อน เปิดหูและเปิดใจฟัง ฟังคำพูด ฟังน้ำเสียง ฟังท่าทาง ฟังการนิ่งเงียบ เผื่อว่าเราอาจจะได้ยินสิ่งที่เขาไม่ได้พูดออกมา นี่คือเคล็ดลับหนึ่งของความสุขจากความสัมพันธ์
คลับที่ยอมรับความหลากหลาย
เป็นพื้นที่ซึ่งเราแสดงจุดยืนที่ต่างกันได้ พูดได้ และฟังได้ โดยไม่ต้องคิดเหมือนกัน ไม่ได้หวังว่าพื้นที่แบบนี้จะทำให้เกิดข้อสรุป แต่มันทำให้ความอึดอัดคลายลง
ฉันคนใหม่ เมื่อได้รู้ความต้องการ
บางทีเราอยากจะปฏิเสธ อยากอธิบาย แต่ไม่รู้จะพูดยังไง เราอยากปฏิเสธแต่เราก็สับสน จะยังไงดีนะ อยากปฏิเสธแต่กลัวว่าเขาจะโกรธ จะบอกยังไงดี
ฟังเป็น เข้าใจ ‘ฅน’
ตอนนั้นพูดอะไรออกไปสักอย่างซึ่งจำไม่ได้แล้ว สิ่งที่จำได้ก็คือ พ่ออึ้งไปเลยจากคำพูดของเรา พ่อเงียบ แล้วหันหลังเข้าบ้าน พ่อไม่ได้พูดอะไร แต่เรารู้สึกทันทีเลยว่าพ่อเสียใจ — นั่นเป็นเหตุการณ์สำคัญที่ทำให้รู้สึกว่า อยากเรียนรู้การฟัง อยากเป็นคนฟังเป็น
มากกว่ารัก
เราทั้งคู่มีความตั้งใจ (intention) ว่าเราจะอยู่ด้วยกัน เพราะความสัมพันธ์นี้มีค่า —มันไม่ใช่ความสัมพันธ์ที่ต่างคนต่างก็ไม่มีใคร หรืออยู่ๆ กันไปแก้เหงา — ไม่ใช่เลยความสัมพันธ์นี้มีค่ามากกว่านั้นมากมายนัก เกินกว่าคำว่ารัก
หมอฟังคนไข้ คนไข้ฟังหมอ
….พอฟังเรื่องราว เห็นความซับซ้อน ก็รู้แล้วว่าการจะบอกว่า ‘คุณย่าคะ คุณย่าต้องแปรงฟันให้หลานก่อนนอนทุกคืน คุณย่าต้องดูแลการกินของหลาน’ บลาๆๆ แบบที่เรียนมา มันใช้ไม่ได้ในบริบทนี้….