การทำงาน
บ่อยครั้งที่เราอาจจะรู้สึกว่าการงานทำให้เราเครียดและเบื่อหน่าย เราจะเข้าใกล้ความสุขได้ก็ต่อเมื่อถึงวันหยุดหรือได้ลาพักร้อน แต่แท้ที่จริงแล้วการงานคือคุณค่าที่เราสร้าง การทำงานเป็นรูปธรรมที่เรากำลังสร้างสรรค์ให้แก่โลก ถ้าเราได้เห็นว่างานของเรากำลังสร้างการเปลี่ยนแปลงใหม่ๆ ทำให้หลายชีวิตมีความสุขมากขึ้น เราก็จะกลับมาชื่นชมกับงานตรงหน้า และรู้ว่าเราเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์อันน่าภาคภูมิใจ โลกกำลังดีขึ้นเพราะงานที่เราทำ
เรามีความสุขได้ในขณะกำลังทำงาน ผ่อนลดความคิดความคาดหวังผลลัพธ์ มองเห็นความสนุกสนานในความท้าทาย มองเห็นความพยายามจากการจัดการกับอุปสรรค และชื่นชมตัวเองกับการเอาใจใส่ในสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ตรงหน้า
ความสุขจากการทำงาน
คืนความสุขให้องค์กรด้วย HRD 4.0
T.G.I.F (Thank God It’s Friday) วลีคุ้นหูที่เรามักพบเห็นในโลกโซเชียลมีเดีย โลกของคนทำงานที่ผ่านเช้าวันจันทร์มาอย่างยากลำบาก รู้สึกทนทุกข์ทรมานในการทำงานแต่ละวัน และได้แต่ภาวนาให้มันถึงวันศุกร์เสียที มันวนอยู่ในวงจรนี้ไปหลายเดือน จนหลายปี หลายคนโชคดีได้ออกมาทำงานที่ตนเองรัก แต่ก็อีกหลายคนที่ยังต้องทนทำงานในสิ่งที่ตนเองไม่ได้ชอบ เพียงเพื่อความอยู่รอดหรือรายได้ในการดำรงชีวิตตามธรรมดาที่ต้องกินต้องใช้
เพลงสร้างสุขปลุกความสร้างสรรค์
งานวิจัยพบว่าเพลงที่ทำให้คุณมีความสุขจะช่วยปลุกความคิดที่หลากหลายได้ดี ทำให้เราได้ไอเดียและหาทางออกให้กับปัญหาได้ นักจิตวิทยาศึกษาผู้ร่วมทดลอง 155 คน อายุช่วงปลายวัยรุ่น พบว่าความคิดของพวกเขาสัมพันธ์กับเพลงที่เขาฟัง เมื่อพูดถึงความคิด นักวิจัยแบ่งความคิดที่ใช้ในการแก้ปัญหาออกเป็นสองแบบ คือ การคิดแบบลู่เข้า คือ การเอาทางเลือกต่าง ๆ มาประเมินหาคุณค่าและหาสิ่งที่ดีที่สุด เป็นวิธีที่เราใช้ในการจดจ่อกับบางสิ่ง เมื่อเรามีข้อมูลในหัวแล้ว และต้องการข้อสรุปที่ดีที่สุด ส่วนการคิดแบบแตกออก คือ
การทำงานอย่างมีความสุข : ก้าวย่างแห่งการพัฒนาจิต
ทั้งๆที่ “การทำงาน” คือความจำเป็นในการดำรงชีพ และเป็นวิถีชีวิตของผู้คนโดยทั่วไป แต่หลายต่อหลายคนมันได้กลายเป็นความฝืนใจ ความกดดันและความทุกข์ทรมาน กระทั่งเกิดคำถามขึ้นในใจอยู่เสมอว่า จะเป็นไปได้หรือไม่ ที่การทำงานกับ “ความสุข” จะก้าวเดินคู่กันไปอย่างสมดุลและยั่งยืน ซึ่งคำถามนี้ได้นำมาสู่แนวทางหลากหลายที่น่าสนใจยิ่ง เพราะแม้มีเป้าหมายร่วมกันคือ การทำงานอย่างมีสุข ซึ่งกรมสุขภาพจิตได้ระบุว่า หากคนเราทำงานอย่างมีความสุข ผลพวงที่ตามมาก็ย่อมคือ “คุณภาพ” และ “ความสำเร็จ”
5 วิธีที่จะหยุดกังวลกับเรื่องที่คุณเปลี่ยนมันไม่ได้
มีความจริงเกี่ยวกับชีวิตอย่างหนึ่งที่หลายคนปฏิเสธ นั่นคือ เราไม่สามารถควบคุมทุกอย่างในชีวิตให้เป็นไปดังใจได้ แต่หลายคนไม่เชื่อและไม่ยอมรับ และพวกเขากลายเป็นพวกบ้าที่ชอบควบคุมไปทุกสิ่งอย่าง คนพวกนี้จะจู้จี้ จุกจิก กับการทำงานของคนอื่น หรือ พยายามทำงานเองทุกอย่าง และคอยบังคับคนอื่น ๆ ให้เปลี่ยนแปลง พวกเขาเชื่อว่าหากสามาาถควบคุมคนและสถาณการณ์ได้ ก็จะไม่มีเรื่องร้าย ๆ เกิดขึ้น ส่วนคนอีกกลุ่มอาจจะพอรู้ว่า พวกเขาไม่สามารถที่จะป้องกันเรื่องร้าย ๆ
ทำงานแล้วความคิดตีบตัน ลองปล่อยใจฝันตามคำแนะนำของนักวิจัยดู
ความสามารถในการจดจ่อ การมีสมาธิกับสิ่งใดสิ่งหนึ่งเป็นตัวผลักดันสำคัญสู่ความเป็นเลิศ เทคนิคต่างๆ ที่เราใช้กัน เช่น การทำรายการสิ่งที่ต้องทำ การทำตารางการทำงาน การแจ้งเตือนจากปฏิทิน ล้วนช่วยให้เราทำงานลุล่วง เหล่านี้เป็นสิ่งที่คงไม่มีใครค้านแน่นอน แถมยังมีหลักฐานว่า การทำสมาธิแค่วันละ 10 นาที ช่วยเพิ่มประสิทธิผลของความเป็นผู้นำ โดยช่วยให้คุณสามารถจัดการกับอารมณ์และเข้าใจเหตุการณ์ที่ผ่านไปแล้วได้ดีขึ้น เอาล่ะ แม้ความสามารถในการมีสมาธิจดจ่อจะเป็นเรื่องดีแน่นอน แต่ก็มีข้อน่ากังวล เพราะการจดจ่อมากเกินไป
6 เคล็ดลับทำงานให้มีสุข
คุณกำลังเบื่อ…เซ็ง…ทำงานซังกะตายไปวันๆ แบบไม่มีความสุขอยู่หรือเปล่า? ถ้าคำตอบคือ ใช่…ลองมาติดตาม 6 เคล็ดลับที่จะเปลี่ยนการทำงานของคุณให้มีความสุขจากเจ้าของรางวัล The Giver Award สาขาความสุขจากการทำงาน พญ.ช่อทิพย์ นาถสุภา พัฒนะศรี กันดีกว่า “เช้าวันมหิดล ไปดูคนไข้ด้วยความรู้สึกขอบคุณสถาบัน ขอบคุณครูอาจารย์ ขอบคุณทุกความช่วยเหลือเกื้อกูลของผู้คนมากมายที่ทำให้ได้เรียนรู้และยืนอยู่ที่นี่ในวันนี้….บ่ายช่วยกันเก็บข้าวของที่ไม่ได้ใช้ในบ้านมาบริจาคที่ปันกัน พ่อกับแม่ก็ช่วยกันเก็บข้าวของมาใส่ถุงบริจาคให้ด้วย ขอบคุณแคมเปญวันมหิดลที่ทำให้เราได้กลับมาคิดว่าในวันนี้เราได้ทำอะไรดี