งานจิตอาสา
จิตอาสาเป็นใจที่นึกถึงผู้อื่น ต้องการช่วยแบ่งเบาความทุกข์ แบ่งปันความสุข คงเป็นเรื่องดีถ้าเราได้ทำงานอาสาเพื่อสังคมขนาดใหญ่ เช่น ดับไฟป่า เก็บขยะในทะเล ปลูกหญ้าทะเล แต่ถ้าเรายังไม่มีเวลาขนาดนั้น เราจะทำงานจิตอาสาเล็กๆ ก็ได้ เช่น การแยกขยะเศษอาหารช่วยให้คนงานเก็บขยะทำงานง่ายขึ้น การสละคิว สละที่นั่งให้ผู้ที่มีความจำเป็นมากกว่า
นอกจากได้ชื่นชมกับผลงานที่เราทำสำเร็จแล้ว ลองสังเกตใจของเราเมื่อได้ทำเรื่องสิ่งเหล่านี้ ลองดูว่าใจของเราในตอนนั้นว่าพองหรือแฟ่บอย่างไร
Q : ตั้งแต่เป็นโรคซึมเศร้า ไม่เคยรับรู้ถึงความสุขและความรัก ที่คนรอบข้างส่งมาให้เลยค่ะ พอมองไปทางไหนก็เจอแต่คนที่ไม่เข้าใจ เจอแต่คำพูดที่ทำให้รู้สึกแย่ ทั้งๆที่คำพูดเหล่านั้น สำหรับคนที่ไม่ป่วย มันก็คงไม่รุนแรงอะไร รู้สึกว่าเข้ากับใครในสังคมไม่ได้ และคิดอยู่เสมอว่า การหลับไปตลอดกาล น่าจะเป็นทางออก ควรทำอย่างไรดีคะ?
A : คุณมิอาจรับรู้ถึงความสุขและความรักของคนรอบข้างได้ คงเป็นเพราะคุณมองเห็นแต่คนที่ไม่เข้าใจคุณ หรือได้ยินแต่คำพูดที่ทำให้รู้สึกแย่ อาตมาเชื่อว่าคนที่รักคุณ เข้าใจคุณ และชื่นชมคุณมีอยู่ไม่น้อย แต่คุณมองไม่เห็น เพราะมัวแต่จดจ่อแต่สิ่งที่เป็นลบดังที่กล่าวมาข้างต้น ใจของคนเราเหมือนแก้ว ถ้ามีน้ำเต็มแล้ว จะเติมน้ำใหม่ลงไปเท่าไหร่ มันก็ล้นออกหมด
‘หนึ่งวันที่ฉันตื่นรู้’ เด็กมรรคง่าย ต้นไม้แห่งปัญญา
โครงการเด็กมรรคง่าย ต้นไม้แห่งปัญญา ดำเนินกิจกรรมมานานกว่า 4 ปีแล้ว…เด็กๆ ที่มาร่วมโครงการมีพัฒนาการด้านสุขภาวะทางจิตใจที่ดีขึ้น จนส่งผลให้เกิดพฤติกรรมที่นำสู่สุขภาวะทางกายและสังคมที่ดีมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นความมีวินัย การรู้จักรับฟังผู้อื่น มีสมาธิ มีความเอื้ออาทรช่วยเหลืองานของพ่อแม่และผู้อื่นด้วยความเต็มใจ การจะสร้างใครสักคนให้เติบโตเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ได้นั้น ไม่ใช่เป็นแต่เพียงการดูแลการเจริญเติบโตของร่างกายภายนอก สิ่งสำคัญที่ไม่อาจมองข้ามคือการดูแล ‘จิตวิญญาณภายใน’ ของคนๆ นั้นให้เจริญเติบโตงอกงามควบคู่ไปกับร่างกายด้วยเช่นเดียวกัน พระอาจารย์ณัฐภพ ขนฺติโก ประธานศูนย์การเรียนรู้พัฒนาจิตและปัญญา
ยางยืดเปลี่ยนชีวิต
ว่ากันว่าคนเราทุกคนจะต้องมี ‘จุดเปลี่ยน‘ และเมื่อถึงจุดนั้น ก็อาจนำพาชีวิตของเราให้เปลี่ยนไปตลอดกาล….. ดร.เมธี ธรรมวัฒนา หรือ อาจารย์เม เป็นเพียงมนุษย์เงินเดือนคนหนึ่งที่ทำงานหาเงิน ซื้อของแพงๆ ไปเที่ยวต่างประเทศ ชีวิตประจำวันคือการดูซีรี่ย์ เขี่ยมือถือ ถ่ายรูปอาหารโชว์ ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนทำไปเพื่อตัวเอง จนเมื่อได้พบจุดเปลี่ยนครั้งใหญ่ถึง 3 ครั้ง ที่ส่งผลให้ชีวิตพลิกผันไปอีกด้านอย่างสิ้นเชิง
ฉันมีชีวิตอยู่ได้อย่างไร เมื่อไม่มีทั้งมือและเท้า
Corinne Hutton เสียทั้งมือและเท้าเมื่อสองปีก่อน เธอไม่คร่ำครวญว่า “ทำไมต้องเป็นฉัน” แต่กลับคิดว่า ดีแล้วที่ไม่เกิดกับคนอื่น และทุกวันนี้เธอยังคงเปี่ยมไปด้วยความสุขและความหวัง และทำสิ่งต่างๆ ที่เธอรัก เช่น ปีนเขา ขับเครื่องบิน และตั้งองค์กรการกุศล เมื่อสองปีที่แล้ว Corinne มีชีวิตการงานและครอบครัวที่ยุ่งเหยิง งานที่ทำมีความเครียดสูง แต่เธอก็ทน ๆ
Q : ตั้งแต่วันที่พ่อกับแม่จากไป ทุกครั้งที่มีความสุข ก็จะเกิดความทุกข์เสมอ ว่าทำไม ท่านทั้งสอง ถึงไม่อยู่กับเราในเวลานี้ แล้วทำไมต้องเป็นเรา ที่ต้องเสียท่านทั้งสองไป ความทุกข์นี้มันทรมาน และไม่มีหนทางแก้ไขเลยรึครับ
A : ขณะที่เกิดความทุกข์ ให้คิดว่า ความทุกข์นี้ไม่ได้เกิดกับเราคนเดียว บุคคลมากมายในโลกนี้ต่างสูญเสียผู้ที่เขารัก ไม่ว่าจะเป็นคุณพ่อ คุณแม่ สามี ภรรยา บุตรชาย บุตรสาว ฯลฯ การสูญเสียและพลัดพรากไม่ได้เกิดกับเราเพียงคนเดียว เคยมีนิทานทิเบตเรื่องหนึ่งที่เด็กหญิงคนหนึ่งสูญเสียพ่อแม่แล้วกลายเป็นขอทาน เธอโศกเศร้า เหงา ว้าเหว่ แต่วันหนึ่งมีลุงคนหนึ่งนำรูปพระโพธิสัตว์ผู้หญิงมาให้ แล้วบอกว่าให้คิดว่านี่คือคุณแม่ของเธอ
ชีวิตที่ลงตัวของ การทำงาน เงิน และความสุข ของ อ้อม สุนิสา
ชีวิตที่สมดุลและมีความสุข ต้องมีทั้งการให้และรับ การทำงานและการพักผ่อน มาฟังแนวคิดของคุณอ้อม สุนิสากัน… “…พูดแล้วน่าอาย เพราะในภาวะที่ทุกคนทำงานเป็นเกลียว แต่อ้อมขับรถไปอยุธยา ชมวิว กินก๋วยเตี๋ยวไก่ นั่งเรือรอบเกาะ หรือถ้าอยู่กรุงเทพสามารถหาอ้อมได้ตามร้านกาแฟ หรือไม่ก็อ่านหนังสือนิ่งๆ อยู่บนโซฟาที่บ้าน บางคนอาจคิดว่าอ้อมเหมือนคนไม่ทำงาน แต่สำหรับอ้อมมองว่านี่เป็นชีวิตที่ดี เพราะเลือกแล้วว่าจะทำแบบนี้ อ้อมโชคดีที่ทำงานตั้งแต่เด็ก ได้ใช้เงินอย่างพังทลายเร็ว จึงเรียนรู้ที่จะหยุดได้เร็ว