การสัมผัสธรรมชาติ
เมื่อพูดถึงธรรมชาติเรามักนึกถึงป่า ภูเขา ทะเล สวนสาธารณะ หรือการดูดาว การได้ใช้เวลาให้กับสิ่งเหล่านี้เป็นระยะๆ ย่อมดีต่อใจเรา แต่หากเราใช้ชีวิตในเมืองและไม่มีโอกาสแบบนั้น เราก็ยังสามารถสัมผัสธรรมชาติได้ตลอดเวลา เพราะธรรมชาติอยู่ใกล้เรากว่าที่คิด
ลองให้เวลากับตัวเองสัก 5 นาที มองต้นไม้ใบหญ้าใกล้ตัว ชมดอกไม้ เงยหน้ามองฟ้า วางโทรศัพท์มือถือแล้วฟังเสียงที่เกิดขึ้นรอบตัว เสียงลม เสียงของความเงียบ หรือเสียงของความคิด ลองเปิดดวงตา เปิดหู เปิดประสาทสัมผัสของเราให้รู้จักผืนดิน ไอแดด หยดน้ำ สิ่งเหล่านี้คือการได้สัมผัสกับธรรมชาติ
โรงเรียนแปลงผักอินทรีย์ (ตอนที่ 1)
“พวกเรามาทำงานก็เหมือนมาโรงเรียน ปลูกผักอินทรีย์ทำให้เราได้เรียนรู้อะไรเยอะมาก“ ในบ่ายวันที่แดดร้อนเปรี้ยงจนแทบจะละลาย ทีมงานความสุขประเทศไทยนั่งพักหลบแดดสนทนาสบายๆ ใต้อาคารเล็กหลังหนึ่งในบริเวณวัดนักบุญอักเนส จ.ราชบุรี กับ 3 นักเรียนโรงเรียนชีวิต เจ๊มะ เจ๊แจ๋ว และพี่วีระ ทีมงานโครงงานพัฒนาต้นแบบแหล่งผลิตพืชผักปลอดสารเคมี ชุมชนคาทอลิก นักบุญอักแนส สนับสนุนโดย สสส. ซึ่งประโยคข้างต้นคือประโยคที่เจ๊แจ๋ว – เพยาว์
‘โคริงกะ’ ดอกไม้จัดใจ (ตอนที่ 1)
การจัดดอกไม้โคริงกะ ไม่มีสูตรตายตัว ทุกอย่างเป็นไปตามความงามของดอกไม้ที่แต่ละคนมองเห็น เรียกได้ว่ายิ่งเรียนรู้การจัดดอกไม้โคริงกะมากขึ้นเท่าไร ก็ยิ่งมองเห็นใจของตนเองชัดขึ้นเท่านั้น พวกเรามักชอบเปรียบความสุขในใจกับแบตเตอรี่โทรศัพท์ เวลาชีวิตชักไม่ค่อยสุข คำที่ใช้กันบ่อยคือ แบตหมด แบตเสื่อม หลายคนจึงใช้เวลาออกไปท่องเที่ยวกับธรรมชาติเพื่อ “ชาร์จแบต ให้มีพลังกลับมาสู้ต่อ” ฟังดูราวกับว่าในธรรมชาติมี ‘พลังแห่งความสุข’ ให้เราได้ตักตวงอย่างมหาศาล ? ‘โมกิจิ โอกาดะ‘ ศิลปิน
‘ศิลปะจากธรรมชาติ’ เรียนรู้และเยียวยาชีวิต
ธรรมชาติสวยงามและยุติธรรมที่สุด การเข้าใกล้ธรรมชาติ ก็เหมือนเข้าใกล้ธรรมะ ถ้าเราไม่ต้านทาน ไม่ฝืน เราก็จะพบว่าทั้งสุขทั้งทุกข์ในชีวิตมันเป็นธรรมชาติทั้งคู่ ภาพหยดน้ำค้างกลมๆใสๆ ต้องประกายแสงอาทิตย์ กำลังทิ้งตัวลงมาบนใบไม้เรียวยาวสีเขียวสด ตรึงสะกดทุกสายตาให้ต้องหยุดมอง ความรู้สึกขณะจับจ้องเกิดเป็นความนิ่ง สงบ ณ ช่วงเวลานั้นคล้ายความงดงามจากธรรมชาติ กำลังเปิดดวงตาด้านในของเราให้มองเห็นสัจธรรมความจริงในชีวิต ขณะเดียวกันก็ต่อเติมกำลังใจที่เหนื่อยล้าของเรา ให้เต็มเปี่ยมด้วยความหวังและเกิดความสุขขึ้นอีกครั้งหนึ่ง
เปิดหัวใจใน ‘ห้องเรียนธรรมชาติ’
….วันนี้อยากจะมาชวนคุยเรื่อง ดิน ฟ้า อากาศ…. สมัยก่อนหากวงสนทนาใด เปิดประเด็นว่าด้วยการคุยเรื่องดินฟ้าอากาศ คงมีความหมายแค่การคุยเรื่องสัพเพเหระทั่วไป แต่ในสมัยนี้ที่ดินฟ้าอากาศของเราช่างแปรปรวนนัก ฤดูกาลต่างๆ ทั้ง ร้อน ฝน หนาว สลับสับสน ยังมีภัยแล้ง น้ำท่วม พายุหิมะ แผ่นดินไหว สึนามิ ผลัดกันเข้ามาย่ำยีให้โลกของเรากลายสภาพเหมือนผู้ป่วยหนัก
ธรรมชาติช่วยให้เรามีความเอื้ออาทรมากขึ้น
ลองดูภาพสองภาพนี้นิ่งๆ สักพัก….แต่ละภาพทำให้คุณรู้สึกต่างกันอย่างไรบ้างครับ นักวิจัยพบว่าธรรมชาติช่วยให้เรามีความเอื้ออาทรกันมากขึ้น นักวิจัยจาก University of California Berkeley ให้ผู้ร่วมทดลองดูภาพวิวธรรมชาติที่สวยงามและสังเกตพฤติกรรมระหว่างการเล่มเกมทางเศรษฐศาสตร์สองเกม คือ Dictator Game และ Trust Game ซึ่งวัดความเอื้อเฟื้อและความไว้เนื้อเชื่อใจกัน ตามลำดับ พบว่าผู้ที่ชมภาพธรรมชาติที่ยิ่งสวยเท่าไรก็จะมีความเอื้อเฟื้อและความไว้เนื้อเชื่อใจกันมากขึ้นเท่านั้น ในอีกการทดลองหนึ่งที่ญี่ปุ่น ผู้ร่วมทดลองได้ถูกแบ่งเป็นสองกลุ่ม
เส้นทางความสุข : การสัมผัสธรรมชาติ
การพัฒนาอะไรก็ตามที่ทำให้ยากขึ้น ซับซ้อนขึ้น มักนำไปสู่ความเสื่อม แต่การพัฒนาที่ทำให้ง่ายขึ้น เบาขึ้น ถือเป็นการทำให้ดีขึ้น การดูแลใจของเราก็เช่นกัน วิถีธรรมชาติที่พาให้เราสงบ เบา สบาย ย่อมทำให้เราเกิดสุขภาวะทางปัญญาได้ แม้มนุษย์และธรรมชาติจะพึ่งพาอาศัยกันมาเนิ่นนาน ทว่าวิถีการดำเนินชีวิตในยุคปัจจุบันกลับกำลังค่อยๆ แยกมนุษย์ให้ห่างไกลออกจากธรรมชาติไปทุกที จนหลายครั้งทำให้เราหลงลืม วิ่งวนเพื่อค้นหาวิธีเอาชนะ ขัดขืน ฝืนธรรมชาติ จนลืมไปว่านั่นคือหนทางที่พาเราให้ออกห่างจากความสุขที่แท้จริงไปเรื่อยๆ อย่างไม่รู้ตัว