เรื่องและภาพ : วาสนา หอมชื่น

ในชีวิตผู้หญิงคนหนึ่ง ที่ดูเหมือนจะพกพาความเจ็บป่วยติดตัวมาตั้งแต่เด็ก และฝังลึกอยู่ในจิตใต้สำนึกของเธอมาตลอดจนอายุ 30 เข้าออกโรงพยาบาลทุกปีจนเป็นที่รู้กันว่า สุขภาพเธอไม่แข็งแรง  

เธอใช้ชีวิตแบบนั้นมายาวนาน จนวันหนึ่งคิดอยากไปฟิตเนส เพื่อออกกำลังกายเบาๆ ถ่ายรูปสวยๆ ลง facebook แล้วก็ทำอยู่ประมาณ 2 เดือน จนมีพี่คนหนึ่งชวนลงสมัครงานวิ่ง  และแน่นอนเธอไม่เคยรู้จักสนามวิ่ง

.

สนามวิ่งคืออะไร  ต้องเตรียมความพร้อมอย่างไร และที่สำคัญต้องจ่ายเงินเพื่อลงสมัคร  และแล้วเธอก็สมัครงานวิ่งเรียบร้อย แค่รอวันวิ่งจริงมาถึง กับการวิ่งครั้งแรกในชีวิต เธอมีเวลาฝึกซ้อมวิ่งอย่างเพียงพอ ข้อมูลคือระยะวิ่ง 4.5 กิโลเมตร สบายมากวิ่งไปเรื่อยๆ ถ้าเหนื่อยก็เดิน(ในความคิดตอนนั้น) เธอมักชอบท้าทายตัวเองเสมอ  

.

.

.

วันวิ่งจริงมาถึง คนมากมายหลายพันคนมุ่งหน้าภายใต้เป้าหมายเดียวกัน คือ วิ่งเพื่อสุขภาพ วิ่งเพื่อแข่งขัน วิ่งเพื่อสังคม วิ่งเพื่อความฝัน วิ่งเพื่อรางวัล ฯลฯ  มือใหม่อย่างเธอตื่นเต้นไม่น้อย อุปกรณ์ครบเซต ตื่นตั้งแต่ตี 3 เพื่อพาร่างกายออกไปทดลองสิ่งใหม่ๆ เมื่อได้ยินเสียงสัญญาณให้ออกตัว เธอวิ่งไปเรื่อยๆ ตามเส้นทางที่กำหนด เจอถนนที่เริ่มชัน ประสบการณ์ใหม่ระหว่างทางเข้ามาทดสอบเธอ เพราะตอนซ้อมวิ่งเธอไม่ได้ซ้อมเส้นทางที่มีเนินชัน  งานนี้ไม่ง่ายแล้วสำหรับเธอ แต่ด้วยใจที่บอกตัวเองว่าเธอทำได้ และมีเสียงประกาศว่า มีการเพิ่มระยะจาก 4.5 กิโลเมตร เป็น 5.5 กิโลเมตร  สำหรับนักวิ่งสมัครเล่นอย่างเธอนั้นถือเป็นเรื่องสาหัสพอสมควร แต่ใจก็พร่ำบอกตัวเองว่าเธอทำได้ และเธอก็ทำได้จริงๆ  ความรู้สึก ณ ขณะนั้นช่างสวยงามและมีพลังมากที่สุด

.

ใจบอกเธอว่าต้องมีสนามต่อไป และต่อไป  จากระยะ Fun Run 5 กิโลเมตร ไป Mini Marathon 10 กิโลเมตร ไป Half Marathon 21 กิโลเมตร ไป Super Half Marathon 25 กิโลเมตร  เธอใช้เวลาทั้งหมดเพียง 1 ปี 6 เดือน กับการวิ่งลงสนามทั้งหมด ได้ทั้งเหรียญและถ้วยรางวัล สนุกมากจริงๆ เพราะเป็นการเอาชนะใจตัวเองอย่างหนึ่ง  

.

การตัดสินใจครั้งยิ่งใหญ่ของชีวิต เธอต้องการจะวิ่ง Full Marathon 42 กิโลเมตร สักครั้ง  ในทุกๆ การเปลี่ยนระยะวิ่ง เธอมักเลือกสนามที่ยิ่งใหญ่เสมอเพื่อการจดจำและบันทึกเรื่องราวที่เกิดขึ้น  สำหรับ Full Marathon ก็เช่นกัน เธอเลือก Osaka Marathon ซึ่งจัดขึ้นที่ประเทศญี่ปุ่น  เป็นสนามที่ไม่ใช่ใครสมัครแล้วจะได้วิ่งทุกคน จะมีการสุ่มเลือกรายชื่อขึ้นมา ถึงจะได้รับสิทธิ์วิ่ง  เธอไตร่ตรองอยู่นาน เพราะต้องทุ่มเทอย่างมาก ทั้งกำลังกาย กำลังทรัพย์ ต้องดูแลรักษาตัวเองตลอดการเดินทาง  อีกอย่างมีข่าวมากมายว่าวิ่งแล้วเสียชีวิตบ้าง บาดเจ็บบ้าง  แต่สำหรับเธอ ความกลัวอยู่หลังการตัดสินใจที่จะสมัครเข้าร่วมการแข่งขัน 

.

.

.

จากการประกาศผู้มีสิทธิ์เข้าแข่งขันครั้งนี้ เธอได้รับเลือก ความปีติยินดีเกิดขึ้น ความฝันของเธอกำลังจะเป็นความจริงในอีก 3 เดือนข้างหน้า  เธอวางแผนฝึกซ้อม วางแผนการเดินทางเพื่อให้ผิดพลาดน้อยที่สุด ตัดสินใจทำทุกอย่างเอง สมัครเพื่อหาโค้ช หาทีม ขอคำแนะนำทุกอย่างเรื่องวิ่ง และเรียนรู้เพื่อให้พร้อมวิ่งในสภาพอากาศหนาวเย็นในประเทศญี่ปุ่น  เธอลงสมัครงานวิ่งเฉลี่ยเดือนละสามถึงสี่งาน ใช้ร่างกายฝึกซ้อมอย่างหนัก ปั่นจักรยาน ว่ายน้ำ สร้างความแข็งแรงแก่ร่างกาย รวมทั้งสมัครปั่นจักรยานระยะทาง 25 กิโลเมตร แรกในชีวิต โดยไม่ได้ฝึกซ้อมใดๆ เพราะเข้าใจว่าร่างกายแข็งแรง  แต่ไม่เลยร่างกายไม่ได้แข็งแรงขนาดนั้น ประกอบกับเธอลงสมัครงานวิ่งทุกสัปดาห์ ร่างกายไมได้พัก ความเจ็บจากแผ่นหลังค่อยๆ แสดงอาการ ซึ่งเป็นการสะสมความเจ็บปวดมานานจนร่างกายเริ่มประท้วง

.

อีก 1 เดือนเท่านั้นกับวันสำคัญของชีวิต แทนที่เธอจะใช้เวลาที่เหลืออยู่เพื่อฝึกซ้อม กลับต้องเข้ารักษาแผ่นหลัง ที่นับวันจะทวีความเจ็บปวดขึ้นเรื่อยๆ  ความกังวลใจเกิดขึ้นมากมาย จะวางแผนอย่างไรต่อไปกับเส้นทางวิ่ง Full Marathon  เธอไปพบแพทย์ที่มีชื่อเสียงระดับประเทศรวมถึงปรึกษาแพทย์เฉพาะทาง เพื่อรักษาอาการเจ็บแผ่นหลังให้หายเร็วที่สุด  หมอนักวิ่งเข้าใจความฝันของเธออย่างสุดซึ้ง พูดให้กำลังใจและบอกว่าเธอทำได้  ใกล้ถึงวันเดินทางเธอไม่ได้ใช้เวลาฝึกซ้อมเลย กำลังกายจึงมีไม่มากนัก เพียงพูดกับตัวเองว่า มีโอกาสแล้วจะทำให้ดีที่สุด

.

วันเดินทางความตื่นเต้นรบกวนหัวใจเธอเป็นระยะๆ และถี่มากขึ้นเมื่อถึงวันรับหมายเลขวิ่ง (BIB) แต่เธอบอกตัวเองว่าเธอทำได้  ก่อนวิ่งจริงจะมีวัน EVE เพื่อให้นักวิ่งต่างชาติมาพบปะและวิ่งวอร์มประมาณครึ่งชั่วโมงรอบปราสาทโอซาก้า  เธอไม่เคยไปที่ปราสาทแห่งนี้ จึงใช้เวลาวิ่งหาสถานที่อยู่นาน  ด้วยความที่เป็นประเทศญี่ปุ่นซึ่งการหลงทางของคนต่างชาติเป็นเรื่องที่คนญี่ปุ่นให้ความสำคัญและเป็นเจ้าบ้านที่น่ารักที่สุด ในที่สุดเธอก็หาปราสาทเจอ  ระหว่างที่วิ่งหาอยู่นั้น เธอล้มหัวเข่ากระแทกทางอะลูมิเนียมดังสนั่น ทั้งเจ็บทั้งอาย  แต่เธอก็ไปทันเวลาพอดี ได้พบเพื่อนใหม่ เพื่อนต่างชาติ ต่างภาษา แต่พาความฝันมาเจอกัน สนุกสนานจนลืมเจ็บ

พอกลับที่พัก หัวเข่าเธอบวมแทบไม่เห็นกระดูก เธอใช้เวลากับการเรียกสติ ตั้งคำถามมากมาย จะไปต่อหรือพอแค่นี้  แต่เธออยู่ตรงนี้แล้วนะ เธอพูดกับตัวเอง ตัดสินใจลงแข่งในวันพรุ่งนี้

.

.

.

วันสำคัญของชีวิตมาถึง เริ่มวิ่งเวลา 09.00-16.00 น. (ในประเทศญี่ปุ่น) กับมาตรฐานของสนามคือ วิ่งภายใน 7 ชั่วโมงท่ามกลางความเจ็บปวดแผ่นหลังและหัวเข่าที่ยังบวมปูด กับ cut off 10 จุด  ถ้าเธอวิ่งไม่ทันเวลา cut off เธอจะไม่ได้วิ่งในจุดต่อไปและจะต้องออกจากการแข่งขัน  ทุกอย่างกดดัน บีบหัวใจเหลือเกินในแต่ละ cut off เธอเริ่มวิ่งด้วยสภาพอากาศ 5 องศาเซลเซียส  สนามนี้ไม่ธรรมดาเลย ไหนจะต้องสู้กับอากาศ ไหนจะต้องสู้กับร่างกายที่พร้อมจะประท้วงตลอดเวลา ตะคริว ความหิว และการรักษาเวลาให้ทัน

.

ทุกอย่างผ่านไปแบบช้าๆ กับ cut off จุดที่ 8  เธอวิ่งมา 34 กิโลเมตร ร่างกายบอกว่าเธอต้องเดินแล้ว แต่มีเสียงคนญี่ปุ่นตะโกนว่า เธอต้องวิ่งเดี๋ยวนี้! เพราะผ้าขาวกำลังจะถูกขึง นั่นหมายความว่าเธอจะจบที่ 34 กิโลเมตร  

.

ไม่ ไม่ (เสียงในใจ) เธอกัดฟันวิ่งผ่านจุดนั้นแบบหืดขึ้นคอ น้ำตาไหลอาบแก้ม ในใจบอกว่าเธอจะช้าไม่ได้ cut off ยังอยู่  เธอคำนวณเวลา ผ้าขาวกำลังจะถูกขึงอีกครั้ง เธอวิ่งสุดชีวิตเพื่อให้ผ่าน cut off จุดที่ 9  เธอวิ่งพลางร้องไห้กับ cut off จุดสุดท้ายคือเส้นชัย  ความฝันของเธอกำลังจะมาถึง ทุกอย่างที่เธอทุ่มเท ฝ่าฝัน อดทน  เธอวิ่งจบ Full Marathon แรกของชีวิตด้วยเวลา 6.25 ชั่วโมง อย่างภาคภูมิใจ ทำให้ชีวิตของเธอเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง  ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในชีวิต ทุกอย่างล้วนดีงามเสมอ แค่เราเรียนรู้  “เพียงกล้า เราจะก้าว” เรื่องราวที่เป็น “สิ่งดีๆ ในชีวิต”

ความสุขประเทศไทย
PDPA Icon

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save