8 เส้นทางความสุข

รักตัวเองเป็น + ดูแลความสัมพันธ์ได้

การเป็นเพื่อนกับตัวเอง สังเกตความคิด พฤติกรรม ของตัวเราอย่างตรงไปตรงมา เป็นสิ่งที่ช่วยตัวเราได้ แต่บางครั้งการอยู่กับตัวเองก็ทำให้ได้ยินแต่เสียงตำหนิ ซึ่งบ่อยครั้งมันไม่ช่วยเราเท่าไร การออกไปหาใครสักคน ที่เป็นคนจริงๆ อาจจะช่วยเราได้มากกว่า

  • มีงานวิจัยจำนวนมากที่แสดงว่า ชีวิตที่ดีอาศัยความสัมพันธ์ ในความเป็นมนุษย์เราปฏิเสธความสัมพันธ์ไม่ได้
  • มนุษย์ผิดพลาดได้ และ ความคิดของเราเปลี่ยนแปลงได้ เราอาจจะเคยมีประสบการณ์ไม่ดี แต่ไม่ได้แปลว่าทุกคนจะเป็นแบบนั้น สิ่งที่สำคัญที่สุดคือเราเป็นผู้มอบความสัมพันธ์ที่ดีได้
  • การดูแลใจและการเติบโตภายในเป็นทักษะที่เรียนรู้ ฝึกฝนและพัฒนาได้ มิตรภาพและความสัมพันธ์ จะยิ่งทำให้ชีวิตของเรามีความหมายและมีความสุข

.

เนย-มนัสวี ไทยเพชร์กุล เป็นบัณฑิตในสาขาจิตวิทยา เจ้าของร้าน Fill Up! Psychology x Space + Coffee เปิดพื้นที่ให้คนเข้ามาเติมเต็มใจ มีพลังในการใช้ชีวิต ชวนทำเวิร์กชอป ชวนอ่านหนังสือ บางครั้งชวนพิมพ์ดอกไม้ ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมรูปแบบใด เป้าหมายก็เพื่อให้รู้จัก เข้าใจ และเห็นคุณค่าในตนเอง เติมเต็มและมีความหมาย


การตระหนักในคุณค่าของตนเอง มีสำคัญและมีความหมายอย่างไรในสังคมปัจจุบัน
เนยคิดว่า พวกเราอยู่ในสังคมที่ไม่ต้องใช้แรงงานหนักแบบในอดีต เรามีเครื่องทุ่นแรง การงานก็เป็นระบบมากขึ้น ถ้าพูดจากทฤษฎีของมาสโลว์* ก็คือ เราผ่านระดับความต้องการทางกายภาพแล้วระดับหนึ่ง ผู้คนจึงมองหาหรือสำรวจความต้องการในลำดับต่อมา ซึ่งเป็นเรื่องความสัมพันธ์ และการเห็นคุณค่าในตัวเอง


อีกปัจจัยหนึ่งก็คือ ปฏิสัมพันธ์ของผู้คนในสังคมเปลี่ยนไป เราอยู่ในโลกออนไลน์มากขึ้น อยู่กับคนจริงๆ น้อยลง ใช้ชีวิตคนเดียวได้มากขึ้น มีโลกส่วนตัว ด้านหนึ่งมันเป็นโอกาสที่เราจะตั้งคำถาม สำรวจ และทบทวนคุณค่าของตัวเอง แต่ก็อาจจะทำให้เกิดการเปรียบเทียบมากขึ้น หมกมุ่นกับตัวเองเกินไป


ทุกวันนี้ พวกเราเชื่อมโยงกับผู้คนได้ทั่วโลก เราเห็นชีวิตของคนอื่นผ่านแพลตฟอร์มต่างๆ เช่น Instagram, Facebook, X ฯลฯ การเห็นชีวิตของคนอื่นอาจจะทําให้คิดเปรียบเทียบ รู้สึกว่าเราด้อย คนอื่นมีสิ่งนั้นแต่เรายังไม่มีเลย เขามีบ้าน มีรถ ไปต่างประเทศ มีแฟน เตรียมแต่งงาน แต่เรายังไม่มี แล้วก็เริ่มรู้สึกว่าตัวเองผิดปกติ ผิดจากมาตรฐานที่ควรเป็น


การล้อเลียนในโลกโซเชียล ความสัมพันธ์ปลอม (ดีเมื่ออยู่ต่อหน้าแต่ให้ร้ายในโลกโซเชียล) เกรียนคีย์บอร์ด สิ่งเหล่านี้เป็นความรุนแรง และทำให้ความสัมพันธ์ถูกตั้งคำถาม “เขาดีกับเราจริงไหม” “เขาเป็นเพื่อนเราจริงหรือเปล่า” มีความรู้สึกด้อยค่า — การเชื่อมโยงกับผู้คนในโลกโซเชียลมีเดียมีข้อดี แต่มันเป็นความสัมพันธ์ที่ตื้นเขิน


หลายคนพูดถึงความเหงา ความโดดเดี่ยวของยุคสมัยทั้งๆ ที่เรามีเพื่อนได้ทั่วโลก เราจะดูแลกันอย่างไรดี
ความเหงาไม่ได้หมายถึงการอยู่คนเดียว แต่หมายถึงการรู้สึกไม่ได้เลยว่ามีใครสักคนอยู่เคียงข้างจริงๆ เราอาจจะมีจำนวนเพื่อนเยอะมากในบัญชีโซเชียล แต่ถ้าไม่รู้สึกเลยว่ามีคนที่อยู่เคียงข้างเราจริงๆ นี่ก็เป็นความโดดเดี่ยวอย่างหนึ่ง ถ้าอยู่ตัวคนเดียวในหอพัก ในคอนโด การหากิจกรรมเล็กๆ เพื่อให้เราอยู่ใน flow ของเราเนยว่าเป็นเรื่องดี มันดีกว่าการอยู่แต่ในโลกโซเชียล หรือหมกมุ่นอยู่กับความคิด


มีงานวิจัยจำนวนมากที่แสดงว่า ชีวิตที่ดีอาศัยความสัมพันธ์ หมายถึงว่า ในความเป็นมนุษย์เราปฏิเสธความสัมพันธ์ไม่ได้ ทุกคนต้องการความสัมพันธ์ งานวิจัยที่โดดเด่นที่สุดก็คืองานวิจัยระยะยาวของมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด https://www.youtube.com/watch?v=8KkKuTCFvzI


ความสัมพันธ์คือความจำเป็นของชีวิต เปรียบเหมือนปัจจัยสี่ ความสัมพันธ์ หมายถึง การเห็นคุณค่าของกันและกัน พร้อมที่จะสนับสนุนกัน ไม่ได้จำกัดว่าต้องเป็นความสัมพันธ์หนุ่มสาว มันอาจจะเป็นสมาชิกในครอบครัว เพื่อน หรือคนรักก็ได้

.

เนยคิดว่า ถ้าสังคมให้ความสำคัญ ก็น่าจะมีบริบทให้ผู้คนมีโอกาสได้ปฏิสัมพันธ์ต่อกัน ปรับโครงสร้างเพื่อการสร้างความสัมพันธ์ที่ดี เช่น สอนเด็กๆ ถึงการช่วยเหลือ การขอโทษ การชื่นชม สอนวัยรุ่นถึงมิตรภาพที่แท้ การดูแลตัวเองและมีความสัมพันธ์ที่ดีในตัวเอง ฯลฯ เรื่องเหล่านี้ลดความเหงาในสังคมได้ และเป็นการทำงานระยะยาวเพื่อชุมชนที่แข็งแกร่ง ซึ่งก็เป็นเรื่องท้าทายอยู่นะคะ (หัวเราะ)


ถ้าไม่เคยมีประสบการณ์ของความสัมพันธ์ที่ดีมาก่อน จะวางใจและกล้าที่จะสร้างสัมพันธ์ที่ดีอย่างไร
เนยคิดว่า เรื่องแรกที่เราจำเป็นต้องทำความเข้าใจก็คือ มนุษย์ผิดพลาดได้ เรื่องที่สองคือ ความคิดของเราเปลี่ยนแปลงได้ เราอาจจะเคยมีเพื่อนที่ไม่ค่อยดีเท่าไร แต่ไม่ได้แปลว่าทุกคนจะเป็นแบบคนนั้น สิ่งที่สำคัญที่สุดคือตัวเราเลือกที่จะเป็นผู้มอบความสัมพันธ์ที่ดีได้ เราเป็นผู้ริเริ่มมอบความรักและความปราถนาดีให้กับคนรอบข้างได้


เนยยืนยันว่าการมีความสัมพันธ์กับคนอื่นๆ ดีกว่าการอยู่กับตัวเองตามลำพังใช่ไหม
เนยคิดว่าการเป็นเพื่อนกับตัวเอง สังเกตความคิด พฤติกรรม ของตัวเราอย่างตรงไปตรงมา เป็นสิ่งที่ช่วยตัวเราได้มากๆ ค่ะ มันเป็นการทำความรู้จักตัวเองและเข้าใจตัวเอง


แต่การที่ได้คุยกับเพื่อน การแวดล้อมด้วยคนที่จริงใจและหวังดีกับเราก็เป็นอีกขั้นหนึ่ง การมีคนช่วยสะท้อน (reflect) จะช่วยให้เราเห็นตัวเองได้รอบด้านมากขึ้น เช่น เนยเรียนมาทางด้านจิตวิทยา รู้จักการสังเกตตัวเอง และคิดว่าเข้าใจตัวเองระดับหนึ่ง ก็ยังต้องอาศัยพี่ๆ และคนอื่นๆ

.


ช่วงหนึ่งเนยเคยมีความรู้สึกแย่ๆ แล้วมีพี่ช่วยสะท้อนว่า “เนยรู้ไหมว่า สิ่งที่เนยพูดออกมา เป็นการโทษตัวเองหมดเลยนะ” ซึ่งเนยไม่ได้ตระหนักถึงมุมนี้ในตัวเอง — การมีเพื่อน มีกลุ่มคนที่ยินดีรับฟัง ช่วยสะท้อน อย่างเป็นมิตร ช่วยให้เราพบคุณค่าและมั่นใจในคุณค่าของตัวเราได้


บางครั้งการอยู่กับตัวเองก็ทำให้ได้ยินแต่เสียงข้างในที่บอกแต่เรื่องที่เรายังไม่ได้ทำ หรือทำได้ไม่ดี เสียงตำหนิแบบนั้นบ่อยครั้ง มันไม่ช่วยเราเท่าไร เนยคิดว่า การที่เราออกไปหาใครสักคน ที่เป็นคนจริงๆ เสียงของเขาจะช่วยเราได้มาก เช่น เขาอาจจะถามเรากลับมาว่า “เนยมองตัวเองอย่างนี้จริงๆ เหรอ เท่าที่พี่เห็น เนยก็ทำอะไรได้เยอะมากเลยนะ” — การได้ยินอย่างนี้เนยรู้สึกมีกำลังใจ ซึ่งจะนำไปสู่ self-esteem มากขึ้น

.


บางคนโทษตัวเองเพราะกลัวจะเป็นคนหลงตัวเอง จะจัดสมดุลเรื่องนี้อย่างไรดี
เนยคิดว่าการเห็นสภาวะข้างใน หรือ awareness จะช่วยมากๆ ความภาคภูมิในตัวเอง (self-esteem) หมายถึง เราประเมินคุณค่าของตัวเราได้ด้วยตัวของเรา รู้จุดแข็ง จุดอ่อนของตัวเอง รู้ว่ามีเรื่องที่เก่ง รู้ว่ายังมีสิ่งที่บกพร่อง


คนที่มี self-esteem สูง จะรับคำวิจารณ์ได้ มีภาวะของการใคร่ครวญ จริง-ไม่จริง พร้อมพัฒนาและแก้ไข คนที่ self-esteem น้อย จะหวั่นไหวกับเสียงวิพากษ์วิจารณ์ เสียงภายในก็อาจจะเออออไปกับเสียงภายนอกเช่น “ใช่ ฉันมันแย่” “เราผิดเอง” ฯลฯ


การตระหนักว่า “เรามีคุณค่า” เป็นการตระหนักถึงคุณค่าที่รู้ด้วยตัวเอง ไม่ได้เกิดจากการเปรียบเทียบ ไม่ใช่การนำคุณค่าของตัวเราผูกไว้กับภายนอก เพราะเราควบคุมปัจจัยภายนอกไม่ได้ — เราเลือกไม่ได้ว่าเกิดมาในตระกูลแบบไหน รูปร่าง หน้าตาเป็นอย่างไร — แต่ไม่ว่าเราจะมีหน้าตาอย่างไร ร่ำรวยหรือยากจน เรารู้ว่าเรามีคุณค่าในฐานะมนุษย์คนหนึ่ง เราเป็นเรา และเป็นเราที่ไม่เหมือนใคร


ดูเหมือนว่าหลักสำคัญก็คือการสังเกตตัวเอง?
ใช่ค่ะ การสังเกตและเป็นเพื่อนกับตัวเราเองเป็นพื้นฐานและเป็นจุดเริ่มต้น และการมีปฏิสัมพันธ์กับคนอื่นจะช่วยได้มากขึ้นอีกระดับหนึ่ง


เนยอยากให้กำลังใจทุกๆ คนค่ะ เนยคิดว่าเรื่องการดูแลใจและการเติบโตภายใน เป็นทักษะ มันเหมือนกับการขับรถ การว่ายน้ำ เรียนรู้ได้ ฝึกฝนและพัฒนาได้ และแทนที่เราจะเรียนรู้สิ่งนี้ไปคนเดียว การที่เรามีมิตรภาพและความสัมพันธ์ที่ดีกับคนรอบข้าง พร้อมเรียนรู้ ปรับปรุง และพัฒนาไปด้วยกัน ยินดีริเริ่มมอบสิ่งดีให้กัน ให้อภัยกันและกัน จะยิ่งทำให้การใช้ชีวิตของเราบนโลกนี้มีความหมายและมีความสุขมากขึ้นจริงๆ ค่ะ


…………………………………………………..


*ลำดับขั้นความต้องการในทฤษฎีมาสโลว์

  1. ความต้องการทางกายภาพ (พื้นฐานเพื่อการอยู่รอด)
  2. ความต้องการความมั่นคงปลอดภัย
  3. ความรักและการมีส่วนร่วม
  4. ความรู้สึกภาคภูมิใจ
  5. ความสมบูรณ์ของชีวิต – การบรรลุศักยภาพสูงสุด

ความสัมพันธ์

8 ช่องทางความสุข

ความสุขประเทศไทย

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • Google Analytics

    ใช้ Google analytics สำหรับเก็บข้อมูลการใช้งานเพื่อวิเคราะห์การใช้งานภายในเว็บไซต์

Save