โยคะไม่ใช่แค่ร่างกาย
โยคะ ในความหมายดั้งเดิม คือการ “รวม” ร่างกาย จิตใจ และจิตวิญญาณ ให้เป็นหนึ่งเดียวกัน เพื่อให้ได้พบความสงบและรู้จักตัวเองมากขึ้น ในโลกของโยคะ มีเส้นทางหลักๆ อยู่ 4 สาย ที่เหมาะกับจริต-นิสัยของคนที่แตกต่างกันไป แล้วโยคะสายไหนที่น่าจะ “คลิก” กับตัวคุณ
.
- ภักติโยคะ โยคะสายรัก ใช้ความรัก ความศรัทธาที่มีต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์เพื่อเป็นพลังในการฝึกฝน
- กรรมะโยคะ การลงมือทำความดีโดยไม่หวังผล ตั้งใจทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด ไม่ยึดติดผลลัพธ์
- ญาณโยคะ ใช้สมอง ใช้สติปัญญา เพื่อหาคำตอบของความจริงแท้ แก่นแท้ของโลกกับชีวิต
- ราชโยคะ เน้นการฝึกฝนอย่างเป็นระบบ ศาสตร์และศิลป์แห่งการฝึกจิตใจอย่างเป็นขั้นเป็นตอน
.
เมื่อพูดถึง “โยคะ” หลายคนคงนึกถึงท่ายืดตัวเท่ๆ หรือการออกกำลังกายใช่ไหม ? แต่จริงๆ แล้วโยคะลึกซึ้งกว่านั้นมาก โยคะ ในความหมายดั้งเดิม คือการ “รวม” ร่างกาย จิตใจ และจิตวิญญาณ ให้เป็นหนึ่งเดียวกัน เพื่อให้ได้พบความสงบและรู้จักตัวเองมากขึ้น
ในโลกของโยคะ มีเส้นทางหลักๆ อยู่ 4 สาย ที่เหมาะกับจริต-นิสัยของคนที่แตกต่างกันไป มาดูกันดีกว่าว่ามีทางไหนบ้าง แล้วทางไหนที่น่าจะ “คลิก” กับเราที่สุด
ถ้าคุณเป็นคนอารมณ์อ่อนไหว จิตใจดีงาม เต็มไปด้วยความรักและความเชื่อมั่น มองโลกในแง่บวก มีความสุขที่ได้อุทิศตัวเองเพื่อบางสิ่งบางอย่าง ต้องลองฝึก ภักติโยคะ (Bhakti Yoga) – โยคะสายรักและศรัทธา
คนสายแอ็กชัน ชอบการลงมือทำ คนที่มีชีวิตยุ่งๆ มีการมีงาน มีภาระต้องรับผิดชอบ แต่อยากหาความสงบง่ายๆ จากการใช้ชีวิตปกติขอให้ลอง กรรมะโยคะ (Karma Yoga) – โยคะสายแอ็กชั่น ทำดีไม่หวังผล
คนสายเหตุผล เจ้าหลักการ ชอบตั้งคำถามว่า “ทำไม” คุณเป็นนักปรัชญาตัวยง อยากจะเข้าใจโลกเข้าใจชีวิตให้ถึงแก่น ลองฝึกญาณโยคะ (Jnana Yoga) – โยคะสายนักคิด นักปรัชญา
ผู้ที่ชอบแบบแผน มีระเบียบวินัย และอยากได้แนวทางที่จับต้องได้ เพื่อค่อยๆ ฝึกฝนร่างกายและจิตใจไปทีละขั้น
.
ต้องทำ ราชโยคะ (Raja Yoga) – โยคะสายฝึกฝนอย่างเป็นระบบ
ภักติโยคะ (Bhakti Yoga) – โยคะสายรักและศรัทธา “เปลี่ยนพลังแห่งอารมณ์ สู่ความรักอันบริสุทธิ์”
พูดง่ายๆ ภักติโยคะคือ โยคะสายรัก นั่นเอง เป็นการใช้ความรัก ความศรัทธาที่เรามีต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ อาจจะเป็นพระเจ้า ธรรมชาติ หรืออะไรก็ได้ที่เรานับถือสุดหัวใจ ใช้สิ่งนั้นเป็นพลังในการฝึกฝน เป้าหมายคือการลดละอัตตาหรือ ego ของตัวเองลง ใช้ความรักนำทางไปสู่ความสงบจากภายใน ภักติโยคะเหมาะกับผู้ที่ละเอียดอ่อน มีอารมณ์อ่อนไหว จิตใจดีงาม เต็มเปี่ยมไปด้วยความรักและความเชื่อมั่น มองโลกในแง่บวก และมีความสุขที่ได้อุทิศตัวเอง
.
วิธีการ
- ร้องเพลง สวดมนต์: ใช้เสียงเพลงหรือบทสวดเพื่อปลดปล่อยความรู้สึกรักและมีความสุขออกมา
- ระลึกอยู่เสมอ: ไม่ว่าจะทำอะไร ก็ให้นึกถึงสิ่งที่เราศรัทธาอยู่ ราวว่ากับสิ่งที่เราเคารพอยู่กับเราด้วยตลอดเวลา
- จัดพื้นที่เล็กๆ: อาจจะเพียงหิ้งบูชาเล็กๆ จัดให้สวยงาม น่ารัก วางของที่สื่อถึงความศรัทธาของตัวเราเอาไว้ในบ้าน
- มองหาข้อดี: ฝึกมองผู้คนรอบข้างและมองทุกสิ่งทุกอย่างด้วยความรัก ทุกอย่างคือส่วนหนึ่งของพลังที่ดีงามในจักรวาล
กรรมะโยคะ (Karma Yoga) – โยคะสายแอ็กชั่น ทำดีไม่หวังผล “ทำหน้าที่ให้เต็มที่ แต่ปล่อยวางผลลัพธ์”
นี่คือ “โยคะสายแอ็กชั่น” ลงมือทำความดีโดยไม่หวังผล ตั้งใจทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงานหรือเรื่องส่วนตัว และไม่ยึดติดว่าผลลัพธ์ต้องเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ แค่ “ได้ทำ” ก็ถือว่าสุดยอดแล้ว กรรมะโยคะ เหมาะกับพวกเราแทบทุกคนเลย โดยเฉพาะคนที่มีชีวิตยุ่งๆ มีงานมีการต้องทำ มีภาระต้องรับผิดชอบ แต่อยากหาความสงบง่ายๆ จากการใช้ชีวิตปกติ
วิธีการ
- ใส่ใจกับสิ่งที่ทำ: ไม่ว่าจะทำอะไรก็ตาม เช่น ตอบอีเมลลูกค้า ล้างจาน หรือเล่นกับลูก ก็ทำสิ่งนั้นด้วยความตั้งใจเต็มที่
- ทำแล้วปล่อย: ทำให้ดีที่สุด แล้วก็ปล่อยวาง ไม่ต้องไปกังวลว่าใครจะชม หรือผลจะออกมาเป็นยังไง
- ออกไปเป็นอาสาสมัคร: การใช้เวลาว่างไปช่วยคนอื่นโดยไม่หวังอะไรเลย คือการฝึกกรรมโยคะที่ชัดเจนสุดๆ
- เตือนตัวเอง: คอยบอกตัวเองบ่อยๆ ว่า “เรามีหน้าที่แค่ทำ ส่วนผลจะเป็นยังไง นั่นเป็นอีกเรื่อง”
.
ญาณโยคะ (Jnana Yoga) – โยคะสายนักคิด นักปรัชญา “ใช้สมองและความคิด เพื่อค้นหาความจริงของชีวิต” ญาณโยคะ เน้นใช้สมอง ใช้สติปัญญาและการคิดวิเคราะห์ เพื่อหาคำตอบว่าอะไรคือความจริงแท้ของชีวิต อะไรคือสิ่งที่เราสร้างขึ้นมาเอง บอกเลยว่าโยคะสายนี้ท้าทายความคิดสุดๆ ญาณโยคะนี้ใช่เลยสำหรับคนที่ถนัดการใช้เหตุผล ชอบตั้งคำถามว่า “ทำไม?” ถ้าคุณมีแนวโน้มเป็นนักปรัชญาตัวยง อยากจะเข้าใจโลกกับชีวิตให้ถึงแก่นต้องลองฝึกในแนวทางนี้
วิธีการ
- อ่านและฟัง: ลองหาหนังสือปรัชญาดีๆ หรือฟังคำสอนจากผู้ที่เรารู้สึกว่าเป็นผู้มีปัญญา
- คิดตาม: พอได้รู้อะไรมา ก็เอามานั่งคิด ไตร่ตรอง ตกตะกอนกับตัวเองว่าเราเข้าใจมันจริงๆ ไหม
- นั่งสมาธิ: เพื่อเปลี่ยนสิ่งที่ “เข้าใจด้วยหัว” ให้กลายเป็นสิ่งที่ “รู้สึกจากใจ” จริงๆ
- ถามตัวเอง: คำถามเด็ดของโยคะสายนี้คือ “ฉันคือใครกันแน่?” ถามไปเรื่อยๆ เพื่อหาตัวตนที่แท้จริงของเราราช
.
ราชโยคะ (Raja Yoga) – โยคะที่ต้องฝึกฝนอย่างเป็นระบบ “ศาสตร์และศิลป์แห่งการฝึกจิตใจอย่างเป็นขั้นเป็นตอน (step by step)” สายนี้เปรียบเหมือน “ราชา” ของโยคะ เพราะมีขั้นตอนการฝึกที่ชัดเจน เป็นระบบมากๆ โยคะที่พวกเราคุ้นเคย เช่น หฐโยคะ วินยาสะ อัษฏางค์โยคะ ล้วนมีรากฐานมาจากราชโยคะทั้งสิ้น
ราชโยคะเหมาะมากสำหรับคนที่ชอบอะไรที่มีแบบแผน มีระเบียบวินัย และอยากได้แนวทางที่จับต้องได้ เพื่อค่อยๆ ฝึกฝนร่างกายและจิตใจไปทีละขั้น ขอให้เริ่มฝึกตามแผน 8 ขั้นตอน หรือที่เรียกว่า “อัษฎางคโยคะ” ซึ่งครอบคลุมทุกอย่างในชีวิตดังนี้
- ยมะ: ศีลธรรมพื้นฐานที่เราทำกับคนอื่น เช่น ไม่โกหก ไม่ทำร้ายใคร
- นิยมะ: วินัยที่เราทำกับตัวเอง เช่น รักษาความสะอาด พอใจในสิ่งที่มี
- อาสนะ: ก็คือการฝึกท่าโยคะต่างๆ ที่เราคุ้นเคยกันดี
- ปราณายามะ: การฝึกควบคุมลมหายใจ
- ปรัตยาหาระ: การดึงความสนใจจากสิ่งรอบข้าง กลับเข้ามาอยู่กับตัวเอง
- ธารณะ: การฝึกสมาธิเบื้องต้น คือการเพ่งจิตไปที่สิ่งเดียว
- ธยานะ: สมาธิขั้นที่ลึกขึ้น จิตจะนิ่งและต่อเนื่อง
- สมาธิ: สภาวะที่จิตใจเราสงบและรวมเป็นหนึ่งเดียวกับทุกสิ่ง เป็นเป้าหมายสูงสุด
หมายเหตุ ในไทยนิยมสอน อาสนะ และ ปราณายาม
.
โยคะสำหรับคุณ
เห็นไหมว่าโยคะไม่ใช่แค่ออกกำลังกาย ไม่ใช่แค่การยืดตัวเทพๆ แต่มีอะไรมากกว่านั้นเยอะเลย โยคะทั้ง 4 สายนี้ ไม่ได้แยกจากกันเด็ดขาด ผู้สนใจสามารถฝึกอย่างผสมผสานได้ เช่น ฝึกโยคะท่ายาก (ราชโยคะ) แต่ทำด้วยใจที่รักการฝึก (ภักติโยคะ) และไม่ซีเรียสว่าท่าต้องเป๊ะ (กรรมโยคะ) แค่นี้ก็ยอดเยี่ยมแล้ว!
หวังว่าเรื่องนี้จะช่วยให้ทุกคนเห็นว่าโยคะเป็นเครื่องมือดีๆ ในการพัฒนาตัวเองนะ ลองหาทางที่ใช่ แล้วชีวิตจะสมดุลและมีความสุขขึ้นเยอะเลย
……………………………………………