8 เส้นทางความสุข

ชีวิตที่มีไกด์ไลน์

ชีวิตที่มีไกด์ไลน์ทำให้ผมรู้สึกไม่เคว้งคว้าง ถ้าหากอะไรเกิดขึ้น อย่างน้อยก็พอจะมีแสงสว่างนำทางว่าผมจะอยู่อย่างไร ผมสวดขอบคุณทุกวัน ขอบคุณพระ ขอบคุณผู้คน ขอบคุณทุกสิ่งทุกอย่าง เพราะนั่นคือการปรากฎของพระ — พระอยู่ในตัวของเรา พระอยู่ในทุกสิ่งรอบตัวเรา เหนือไปจากตรรกะ เหตุผล เหนือการรับรู้แบบโลกๆ มันพ้นไปจากเรา

.

  • คุณสมพลสื่อสาร – ภาวนา ถึงพระผู้เป็นเจ้า ทุกวัน ระลึกถึงท่านเกือบจะทุกเวลา โดยเฉพาะ ในยามที่เจอสถานการณ์คับขัน เจอเรื่องยาก ไปไม่ถูก ขอเข้าพึ่งพระ ขอให้ท่านนำทาง
  • การสวดภาวนาว่า “แล้วแต่พระ” หลายๆ ครั้งก็ทำให้คุณสมพลหวั่นไหว เพราะไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นบ้าง แต่พร้อมกันนั้น การภาวนา การสื่อสารนั้นก็เพื่อจะยืนยันว่า ไม่ว่าพระจะมอบอะไรให้ก็ตาม คุณสมพลจะน้อมรับ เพราะตระหนักว่าตนไม่มีอำนาจกะเกณฑ์ให้ทุกอย่างเป็นไปดั่งใจ
  • ชีวิตของเราอยู่บนเส้นด้ายทุกวัน ไม่รู้หรอกว่าอะไรจะเกิดขึ้นในนาทีถัดไป เมื่อทุกอย่างยังดีก็ขอบคุณพระ แต่หากมีอะไรเกิดขึ้น อย่างน้อยชีวิตก็มีไกด์ไลน์ ช่วยให้ไม่เคว้งคว้าง พอมีแสงสว่างนำทางว่าจะอยู่อย่างไร

.

บทสัมภาษณ์นี้ เราพูดถึงการเชื่อมโยง การฟื้นความสัมพันธ์ของตัวเรากับสิ่งที่เหนือกว่า (transcend) ซึ่งจริงๆ ก็มีหลากหลาย ในครั้งนี้ ความสุขประเทศไทยได้สนทนากับศาสนิกชนท่านหนึ่ง ถึงการมีความสัมพันธ์เชื่อมโยงของตนกับพระเจ้า — ศาสนาจะช่วยให้เราอบอุ่นได้อย่างไร ในบทสัมภาษณ์นี้ เมื่อพูดถึง “พระ” หมายถึง “พระผู้เป็นเจ้า” ตามความเชื่อของชาวคริสต์

.

“ผมยอมให้ชีวิตของผมมีผู้นำทาง” — นี่คือประโยคหนึ่งในการสนทนากับ คุณสมพล ชัยสิริโรจน์ กรรมการ บริษัท ไอ.ซี.ซี.อินเตอร์เนชั่นแนล เมื่อถามคุณสมพลถึงความสัมพันธ์ของตนเองกับพระเจ้าว่า บ่อยแค่ไหน คุณสมพลตอบง่ายๆ ว่า เกือบจะทุกเวลา “โดยเฉพาะในยามคับขัน เจอเรื่องยาก ไปไม่ถูก ผมเข้าพึ่งพระ ผมสวด สื่อสาร ขอให้ท่านนำทางให้ผม”

.


ขออนุญาตถามได้ไหมคะว่า ความเชื่อว่ามีบางสิ่งที่เหนือไปจากตัวของเรานี้ เป็นมาอย่างไร ทำไมถึงเชื่อ ?
ผมไม่ใช่คนอายุน้อย ผมผ่านเหตุการณ์ในชีวิตมามากมาย ผมอยู่ได้ดีมาถึงวันนี้เพราะมี ‘อะไรบางอย่าง’ ที่นำทางให้ผม ผมเรียกง่ายๆ ว่า ‘วางใจในพระ’ เมื่อวางใจในพระ ผมก็ต้องวาง ‘ความเป็นผม’ ลง วางความคิด วางความสงสัย วางความถือดีลง

.


ผมเคยมีประสบการณ์เฉียดตาย ผมแพ้ยาแล้ววูบ ณ ขณะนั้นชัดเจนมากว่าผมกำลังจะตาย คำถามที่ผุดขึ้นมาก็คือ “นี่ผมจะต้องไปจริงๆ แล้วเหรอ” คำถามที่ตามมาติดๆ ก็คือ “แล้วยังห่วงอะไรอีกไหม” ซึ่งคำตอบก็ชัดเจนมาก “ห่วงลูก” เพราะตอนนั้นลูกยังเล็กมากทั้งสองคน แล้วทันใดนั้นก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นมาว่า “ไม่ต้องห่วง แม่เขาเก่ง” พอได้ยินคำว่า “แม่เขาเก่ง” ผมก็ปล่อยได้ ถ้าอย่างนั้น หากจะต้องไป ผมก็ไป แล้วผมก็เริ่มสวดมนต์ — ผมท่องบทสวดมนต์ ข้าแต่พระบิดา (Pater Noster)* ซึ่งเป็นบทที่ผมสวดเป็นประจำทันทีแล้วก็หลับไป ผมตื่นขึ้นในอีกสองวันต่อมา — หลังจากเหตุการณ์นั้น การใช้ชีวิตของผม ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น จะดี หรือจะร้าย ผมภาวนาในใจ “แล้วแต่พระ” ผมวางใจของผมไว้ตรงนั้น

.


คำว่า “แล้วแต่พระ” จะพูดอย่างปล่อยปละละเลยก็ได้ แต่เมื่อผมสวดภาวนาและเอ่ยคำนี้ เมื่อผมสื่อสารข้อความนี้ต่อหน้าพระ หลายๆ ครั้งผมหวั่นไหว เพราะผมต้องวางการควบคุม บังคับ กะเกณฑ์ลงไป ‘แล้วแต่พระ’ หมายความว่า ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ตาม ผมน้อมรับ ผมไม่มีอำนาจที่จะกะเกณฑ์ให้เป็นไปดั่งใจ


การสวดภาวนา การสื่อสารกับพระ เหมือนหรือแตกต่างจากการอ้อนวอน การขอ
ถ้าความสัมพันธ์ของเราคือการเป็นลูก (บุตรของพระเจ้า) เราอาจจะขอก็ได้ เช่นเดียวกับลูกขอพ่อแม่ แต่เมื่อโตขึ้นเราก็รู้ว่า ตัวเราไม่ได้มีอำนาจที่จะทำให้อะไรๆ เป็นไปตามใจของเรา — พระจะให้หรือไม่ให้ ไม่ได้อยู่ในอำนาจของเรา — แล้วแต่พระ

.

มักจะมีข้อถกเถียงเสมอเรื่องการพึ่งตัวเอง กับ การร้องขอ — เมื่อผมพูดว่า ผมวางใจในพระ ขอให้พระนำทาง ผมก็พึ่งตัวเองด้วย ผมลงมือทำ ใช้ศักยภาพเต็มที่ ใช้ความสามารถที่มี พร้อมกับยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้น การมีพระนำทางคล้ายๆ กับการเดินทางแบบมีไกด์ไลน์ ผมไม่ได้บอกว่าอะไรดีกว่ากัน แต่การมีไกด์ไลน์ กับไม่มีไกด์ไลน์ แตกต่างกันแน่ๆ


หลักคิด การวางใจ วิธีปฏิบัติในการสวดภาวนานี้ทำอย่างไร
ถ้าภารกิจของการเกิดมา ก็เพื่อจะหาทางกลับไปยังแหล่งกำเนิด คือกลับบ้าน (ดินแดนของพระเจ้า) ดังนั้นไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับชีวิตก็ล้วนแต่เป็นเสียงเรียกพาเรากลับบ้าน สำหรับตัวผม ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นในชีวิตผมระลึกถึงพระ ผมสื่อสารกับท่าน บ่อยครั้งเป็นการขอบคุณ บางครั้งเป็นการหยุดเพื่อฟัง ขอการนำทาง ถ้าจะพูดอีกอย่าง ตลอดเส้นทางของชีวิตก็คือการภาวนา

.


ผมสวดภาวนาเสมอ บ่อยๆ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการขอบคุณ ผมไม่ได้ขอบคุณเป็นคำๆ หรือเป็นเรื่องๆ ไม่ได้ขอบคุณที่พระช่วยให้ผมรอด หรือขอบคุณที่ผมได้นั่นได้นี่ แต่ผมระลึก ตระหนัก ว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นอยู่นี้ เป็นเพราะการมีอยู่ของพระองค์ เพราะความเมตตาของพระองค์ — คำว่า gratitude เป็นคำที่รวมความไว้ได้ดีที่สุด ผมไม่รู้จะอธิบายสิ่งเหล่านี้ออกมาได้อย่างไร

.


ผมสวดขอบคุณทุกวัน ขอบคุณพระ ขอบคุณผู้คน ขอบคุณทุกสิ่งทุกอย่าง เพราะนั่นคือการปรากฎของพระ — พระอยู่ในตัวของเรา พระอยู่ในทุกสิ่งรอบตัวเรา เหนือไปจากตรรกะ เหตุผล เหนือการรับรู้แบบโลกๆ มันพ้นไปจากเรา

.

คุณสมพล และ ภรรยา


ในยามที่มนุษย์เผชิญความมืดมนอย่างที่สุด ไม่เห็นหนทาง อยากยุติการเดินทาง อยากกลับไปยังแหล่งกำเนิด อยากจะไปยังดินแดนของพระองค์เลย จะทำได้ไหมคะ มีคำแนะนำไหม
ในสมัยที่ผมยังหนุ่ม ผมก็ไม่ชอบอะไรยากๆ ใครๆ ก็อยากจะเดินสบายๆ ด้วยกันทั้งนั้น ผมก็เคยไม่อยากอยู่ ปัจจุบันหลายคนก็ถามผมด้วยคำถามทำนองนี้ ซึ่งผมก็เห็นว่าชีวิตของเขาก็ยากจริงๆ ผมเข้าใจได้ ผมไม่ตำหนิ — แต่คำตอบของผมก็คือ ‘ชีวิตไม่ใช่ของเรา มันไม่ได้ขึ้นกับว่าเราอยากอยู่ หรือไม่อยากอยู่ ถ้าชีวิตเป็นของพระ ดังนั้นจึงแล้วแต่พระ’

.


“แล้วแต่พระ” แปลว่า ถ้าพระยังอยากให้เราอยู่ เราก็อยู่สิ — ดังนั้น ถ้ารู้สึกอับจนหนทาง มืดมนไปหมด ผมว่าเดินเข้าโบสถ์ได้ครับ เข้าไปสื่อสารกับท่าน ขอการนำทาง หรือจะเดินเข้าวัดก็ได้ สื่อสารกับพระพุทธเจ้าก็น่าจะได้นะครับ

.


ว่ากันจริงๆ แล้ว ชีวิตของเราอยู่บนเส้นด้ายทุกวัน หลายคนอาจจะเห็นว่าชีวิตของผมดีมาก แต่จริงๆ แล้วผมก็มีความทุกข์ทรมานในแบบของผม —เราไม่รู้หรอกว่าอะไรจะเกิดขึ้นในนาทีถัดไป ลูกสาวของผมทำงานต่างประเทศ ภรรยาก็เดินทางบ่อย ตัวผมเองก็มีความเสี่ยงเรื่องหลอดเลือดหัวใจ คำภาวนาที่อยู่ในใจของผมตลอดเวลาก็คือ “แล้วแต่พระ” — เมื่อทุกอย่างยังดี ผมขอบคุณพระ ผมประคับประคองสิ่งเหล่านี้ไป แต่หากมีอะไรเกิดขึ้นก็ต้องว่ากันไป แต่อย่างน้อยชีวิตที่มีไกด์ไลน์ทำให้ผมรู้สึกไม่เคว้งคว้าง ถ้าหากอะไรเกิดขึ้น อย่างน้อยก็พอจะมีแสงสว่างนำทางว่าผมจะอยู่อย่างไร — ทั้งหมดนี้น่าจะพอเป็นประโยชน์นะครับ

.


ความสุขประเทศไทยขอขอบคุณ คุณสมพล ชัยสิริโรจน์ มา ณ โอกาสนี้ และหวังว่าท่านผู้อ่านจะได้ประโยชน์ และเกิดการจุดประกายในการสร้างความสัมพันธ์ใหม่ๆ ในสิ่งที่เหนือขึ้นไปกว่าตัวตนของเราด้วย

.
………………………………………………….
*บทสวดภาวนา ข้าแต่พระบิดา (มธ 6:9-13) (Pater Noster)
ข้าแต่พระบิดาของข้าพเจ้าทั้งหลาย
พระองค์สถิตในสวรรค์
พระนามพระองค์จงเป็นที่สักการะ
พระอาณาจักรจงมาถึง
พระประสงค์จงสำเร็จในแผ่นดินเหมือนในสวรรค์
โปรดประทานอาหารประจำวัน แก่ข้าพเจ้าทั้งหลายในวันนี้
โปรดประทานอภัยแก่ข้าพเจ้า เหมือนข้าพเจ้าให้อภัยแก่ผู้อื่น
โปรดช่วยข้าพเจ้าไม่ให้แพ้การผจญ
แต่โปรดช่วยให้พ้นจากความชั่วร้ายเทอญ อาแมน

.

ชวนอ่าน บทสัมภาษณ์คุณสมพล ชัยสิริโรจน์ ในมิติการดูแลความรักได้ที่ https://www.happinessisthailand.com/2022/08/22/voice-dialogue-family-home/

การภาวนา

8 ช่องทางความสุข

ความสุขประเทศไทย
PDPA Icon

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save