ถ่ายรูปท้องฟ้า เยียวยาใจ
ใจคนก็คงไม่ต่างกับท้องฟ้าเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา รวมถึงตัวฉันเองด้วย เราไม่สามารถควบคุมอะไรไม่ได้เลย แม้จะถ่ายรูปเก็บไว้เผลอแป๊ปเดียวท้องฟ้าก็เปลี่ยนสี เปลี่ยนไป ฉันเรียนรู้ที่จะเข้าใจถึงการเปลี่ยนแปลง
.
ถ้าคุณโหยหาธรรมชาติ อยากจะผ่อน คลาย ได้การเยียวยารักษา ท้องฟ้าเป็นยาขนานหนึ่งที่น่าสนใจ เพราะเป็นยาที่เข้าถึงได้ง่าย ใกล้ และไม่แพง
ท้องฟ้าอยู่ตรงนั้นเสมอ กับเรา ตลอดเวลา ไม่ต้องใช้เงินซื้อหา และทุกคนสามารถเข้าถึงท้องฟ้าได้โดยเท่าเทียมกัน ในหนังสือ DIY Your Heart ชวนพวกเราถ่ายรูปท้องฟ้า 7 วัน แล้วนำมาเรียงกันแล้วทบทวน เพื่อนๆ ของพวกเราในรุ่น TEP 9 ทำแบบฝึกหัดนี้ และมีการเรียนรู้หลายอย่างที่น่าสนใจ ชวนอ่านและหากใครสนใจก็ลองเอาไปทำได้เลยนะคะ
วิธีการ
- มองหาฟ้ากว้าง มองหาท้องฟ้าที่ไม่มีอะไรมาบดบังในช่วงเวลาที่เราสะดวก
- เลือกมุมที่ชอบ มองสีท้องฟ้า จังหวะของเมฆ แล้วถ่ายรูปเก็บไว้ จะใช้กล้องมือถือ หรือกล้องชนิดใดก็ได้ตามสะดวก
- ถ่ายรูปท้องฟ้าต่อเนื่องสัก 7 วัน (หรือกำหนดเวลาตามที่เราอยากท้าทายตัวเอง)
- นำรูปท้องฟ้าทั้งหมดมาประกอบรวมกันเป็น 1 รูป
- ค่อยๆ มองภาพท้องฟ้าทีละภาพ มีท้องฟ้าวันไหนที่เราจำได้ เหตุการณ์และความรู้สึกของวันนั้นมันผ่านไปหรือยัง ความหมายของท้องฟ้าวันนั้นเปลี่ยนไปบ้างหรือเปล่า
.
.
ประสบการณ์จากเพื่อนของเรา
ประสบการณ์ของคนที่ 1
ท้องฟ้ามันคอยเตือนเราตลอดว่าเดี๋ยวเวลาก็เคลื่อนผ่านไป มันไม่มีอะไรอยู่จีรัง จะเรื่องดีมากหรือแย่แค่ไหน เดี๋ยวมันก็ผ่านไป เราเเค่ใช้เวลาทุกวิให้ดีที่สุดเท่าที่ทําได้และอย่าลืมสังเกตความงดงามเล็ก ๆ ระหว่างทางไปด้วยก็ช่วยให้ชีวิตนี้คุ้มค่าแล้ว
เคยมีวันหนึ่งขายงานให้หัวหน้าเสร็จก็โดนหัวหน้าด่ามา แรงมาก แบบเครียดกันทั้งทีม เย็นวันนั้น ซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์ของพี่ในทีมกลับบ้าน ระหว่างทางรถติดไฟแดง แหงนหน้ามองท้องฟ้ายามเย็น มันสวยมาก ก็เลยบอกพี่ในทีมว่า “ไม่เป็นไรหรอกพี่ อย่างน้อยวันนี้เราก็มีท้องฟ้าเป็นของขวัญนะ” ฮ่า ฮ่า ฮ่า
ประสบการณ์ของคนที่ 2
การโฟกัส สิ่งๆ นั้น ทำให้เข้าใจความรู้สึกในเวลานั้นๆ รูปบางรูปไม่มีก้อนเมฆเลย แต่สีท้องฟ้าสวยมากๆ ชอบมากๆ รูปบางรูปอยู่บนฟ้ามองเห็นเมฆชัดมากๆ สวยมากๆ ชอบมากๆ เช่นกัน เวลามองท้องฟ้า ไม่ว่าจะจากที่ไหน ความรู้สึกเดียวที่ผุดขึ้นมาคือสวยจัง แบบนี้สวยจัง สีนี้สวยจัง ฮีลใจในเวลานั้นมากๆ ค่ะ
.
.
ประสบการณ์ของคนที่ 3
เมื่อครบ 7 วัน ฉันมานั่งดูรูป โดยปกติฉันก็ชอบถ่ายรูปธรรมชาติมากๆ อยู่แล้วโดยเฉพาะท้องฟ้า ทะเล ภูเขา เหตุผลตอนนั้นฉันคงคิดว่าท้องฟ้าแต่ละวันสวยมากๆ แต่วันนี้เมื่อมานั่งดูคำตอบคือ สาเหตุที่ฉันถ่ายรูปไว้ตอนนั้นอาจเพราะลึกๆ แล้ว ฉันรู้อยู่แล้วว่าพรุ่งนี้ท้องฟ้าอาจจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป ท้องฟ้าสวยแต่ไม่เคยเหมือนกันสักวัน
ความรู้สึกตอนถ่ายภาพฉันยังคงจำได้ดี ว่ามีหลายหลายอารมณ์ที่ผ่านเข้ามา บางภาพจะดูเศร้า บางภาพจะดูมีความสุข บางภาพกำลังสนุกกับเพื่อนๆ และการทำงาน ที่น่าสนใจก็คือฉันเองก็ไม่เคยสังเกตุตัวเองเหมือนกันว่า 7 วันที่ผ่านมา ภาพส่วนใหญ่ที่ถ่ายท้องฟ้า มักจะเป็นช่วงเวลาที่ฉันอยู่ใกล้ทะเลหรือพื้นน้ำ พื้นที่แบบนี้อาจจะทำให้ฉันอยากมองขึ้นไปบนท้องฟ้า เพราะฉันไม่ชอบที่แคบ ฉันชอบท้องฟ้า ชอบทะเล ที่กว้างๆ สุดลูกหูลูกตา
ใจคนก็คงไม่ต่างกับท้องฟ้าเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา รวมถึงตัวฉันเองด้วย เราไม่สามารถควบคุมอะไรไม่ได้เลย แม้จะถ่ายรูปเก็บไว้เผลอแป๊ปเดียวท้องฟ้าก็เปลี่ยนสี เปลี่ยนไป ฉันเรียนรู้ที่จะเข้าใจถึงการเปลี่ยนแปลง หลายคนมองว่าโลกสวย ก็แล้วไง?สวยในแบบที่ฉัน ก็แค่ลดความคาดหวังอะไรบางอย่าง มองหาความสุขจากสิ่งเล็กๆ พาตัวเองไปทำอะไรใหม่ๆ ช่วยเหลือผู้อื่นเสมอทุกครั้งที่มีโอกาส
.
.
ประสบการณ์ของคนที่ 4
พอนําภาพมาไล่ดู ยังจําได้ว่าแต่ละรูปถ่ายจากสถานที่ไหน ทั้งถ่ายที่บ้านศรีราชาในช่วงวันหยุดยาวที่เราได้เดินทางกลับไปเยี่ยมบ้าน มันให้ความรู้สึกปลอดโปร่ง สบาย มีความสุข ถาพที่ถ่ายในรถขณะเดินทางจากศรีราชากลับกรุงเทพ แล้วท้องฟ้ากําลังมืดครึ้ม ฝนตั้งเค้ามา มวลก้อนเมฆใหม่ที่ปกคลุมเต็มผืนฟ้าไปหมด หรือ ภาพที่ถ่ายจากระเบียงห้องพัก ในวันที่ท้องฟ้าเป็นสีฟ้า ไม่มีก้อนเมฆให้เห็นเลย ให้ความรู้สึกเหงา ๆ — ทั้งหมดนี้ ให้ความรู้สึกที่แตกต่างทางอารมณ์กันอย่างสิ้นเชิง ถ้าไม่ได้ถ่ายภาพแบบนี้ ก็คงไม่ได้สนใจมองท้องฟ้า ยิ่งมองอย่างพินิจพิจารณายิ่งไม่ค่อยมีโอกาสเข้าไปใหญ่ กิจกรรมนี้ได้ทําให้เราอยู่กับตัวเองและสังเกตสิ่งต่าง ๆ รอบตัวมากยิ่งขึ้น ได้เห็นแง่งามบางอย่างที่ปกติแล้วเราไม่ค่อยได้สนใจ
.
ขอบคุณภาพและเรื่อง จากผู้อบรม TEP 9 โดย ธนาคารจิตอาสา
ขอบคุณหนังสือ DIY Your Heart
…………………………………………………………………..
.