พัฒนาจิตสุขภาวะทางปัญญาความสัมพันธิ์ภาษารักแรงบันดาลใจ
8 ช่องทางความสุข

5 ภาษารัก

.

อุปสรรคใหญ่อย่างหนึ่งในความสัมพันธ์คือการสื่อสาร และอุปสรรคใหญ่หนึ่งของการสื่อสารก็คือ เครื่องรับสารกับเครื่องส่งสารของเราไม่ตรงกัน บางครั้งอาจจะเป็นเครื่องต่างรุ่น บางครั้งก็อาจจะอยู่กันคนละช่วงคลื่น ฝ่ายหนึ่งบอกรักด้วยคลื่น AM แต่อีกฝ่ายรับสัญญาณได้เฉพาะคลื่น FM ก็เลยไม่ได้ยินเสียงของความรัก —- ไม่ใช่ว่าทั้งคู่ไม่รักกัน แค่ไม่ได้ยินกันเท่านั้นเอง

.

ดร.แกรี่ แชปแมน (Dr. Gary Chapman)

นักเขียนชาวอเมริกัน บอกว่า ภาษารัก มี 5 รูปแบบคือ

.

  1. การบอกรักด้วยคำพูด (Words of Affirmation)
    เป็นภาษารักที่ตรงไปตรงมาที่สุด ถูกคาดหวังมากที่สุด แต่ภาษานี้อาจจะไม่ใช่ภาษาที่คนบางกลุ่มคุ้นเคย บางคนอาจจะพูดอ้อมๆ เช่น “กินข้าวมาหรือยัง” หรือ “วันนี้เหนื่อยไหม” หรือ “แม่เชื่อมั่นในตัวหนูเสมอ” หรือ “ฉันเชื่อใจคุณ” หรือ “ไม่เป็นไรนะจ๊ะ” — พวกเราทุกคนล้วนเคยได้ยินประโยคเหล่านี้ แต่ได้ยิน ‘ความรัก’ ที่ซ่อนอยู่ใต้หน้ากากของคำเหล่านี้หรือไม่

อย่างไรก็ตามแม้จะมีคำพูดอ้อมโลกมากมาย ถึง อย่างไร ทุกคนต่างก็ต้องการได้ยินคำซื่อๆ ที่เรียบง่ายที่บอกว่า “แม่รักหนูนะคะ” “พ่อรักลูกครับ” “หนูรักหม่าม้าค่ะ” “ผมรักพ่อครับ” และ “ฉัน/ผม รักคุณไม่เปลี่ยนแปลง”

.

  1. บอกรักด้วยสัมผัส (Physical Touch)
    การกอด การสัมผัส เป็นการบอกรักที่ทรงพลังมาก และมนุษย์ทุกคนล้วนต้องการการบอกรักด้วยภาษานี้ ทารกทุกคนต้องการการสัมผัส และการสัมผัสด้วยความรักมีผลอย่างยิ่งต่อพัฒนาการและสติปัญญาของทารก และแม้พวกเราจะเติบโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว หรือแม้จะอายุมากแล้ว ทุกคนยังคงต้องการการบอกรักด้วยภาษานี้

รูปแบบของการบอกรักผ่านการสัมผัสก็เช่น การกอด การหอมแก้ม สัมผัสที่อ่อนโยน การสบตา การจับมือ ฯลฯ

.

3. บอกรักด้วยการกระทำ (Acts of Service)
คนจำนวนมาก โดยเฉพาะชาวตะวันออกถนัดในภาษานี้มากกว่าภาษาอื่นๆ คุณแม่ที่เตรียมของชอบเอาไว้ให้ คุณพ่อที่คอยขับรถรับ-ส่ง สามีที่คอยตรวจเช็คสภาพรถให้ภรรยา ภรรยาที่จัดเตรียมเสื้อผ้าให้สามี ฯลฯ ทั้งหมดนี้คือการบอกรักผ่านการกระทำ เคยได้ยินไหม .. การกระทำสำคัญกว่าคำพูด ^^ แต่เราจะไม่ได้ยินความรักเลย ถ้าเราอยู่ในร่องของความเคยชิน เราตกหล่มคำที่ว่า “ก็มันหน้าที่ของเขา” — บางที การส่งสติ๊กเกอร์ สวัสดีวันจันทร์ ก็อาจจะเป็นภาษารักในช่องนี้

.

4. บอกรักด้วยของขวัญ (Receiving Gifts)
คนบางคน ไปไหนมาไหนก็จะต้องมีของฝาก โอกาสพิเศษจะต้องมีของให้ ไม่ว่าจะวาระสำคัญ (หรือไม่สำคัญ) จะต้องมีของติดไม้ติดมือ ฯลฯ นี่คือการบอกรักด้วยของขวัญ มันไม่จำเป็นว่าของชิ้นใหญ่ๆ ไม่จำเป็นต้องให้แหวนเพชร หรือนาฬิกา น้ำหอม เสื้อผ้า แต่มันอาจจะเป็นขนมเล็กๆ น้อยๆ กาแฟคั่วเอง ของขวัญชิ้นพิเศษหนึ่งเดียวในโลก(แบบปั้นมากับมือ !) ขอให้เราใส่ใจ คุณค่า มากกว่า มูลค่า

.

5. บอกรักด้วยการใช้เวลาคุณภาพ (Quality Time)
การบอกรักวิธีนี้อาจจะถือได้ว่า เป็นการบอกรักที่แพงที่สุดก็เป็นไปได้ — ในยุคที่เวลาเป็นเงินเป็นทอง การบอกรักวิธีนี้ย่อมมีมูลค่าสูง แต่การสละเวลาเพื่อจะอยู่ด้วยกันก็ไม่ได้แปลว่า การบอกรักนั้นจะได้คุณภาพครบถ้วนสมบูรณ์ ถ้าคู่ของเรา เพื่อนของเรา ลูกๆ ของเรา บอกว่า “พ่อมีเวลาไหม หนูมีเรื่องอยากคุยด้วยหน่อย” นั่นเป็นสัญญาณที่บอกว่า เขากำลังต้องการให้คุณพ่อบอกรักด้วยวิธีนี้

ต้นทุนของภาษานี้คือเวลา แต่คุณภาพไม่ได้ขึ้นกับเวลาเสมอไป สิ่งสำคัญกว่า คือ ‘การอยู่ตรงนั้น (be there)’ ถ้ามีเวลาอยู่ด้วยกัน 3 วัน แต่ต่างฝ่ายต่างก็ไถมือถือ ให้เวลากับคนในจอมากกว่าคนตรงหน้า เวลา 3 วัน ก็แทบไม่มีความหมาย แต่ถ้าในช่วงเวลา 40 นาที ที่เราได้นั่งกินอาหารร่วมกัน เราใส่ใจกันและกัน ถามสารทุกข์สุกดิบ ยิ้มให้กัน หัวเราะต่อกัน นั่นคือเวลาคุณภาพ การออกไปปั่นจักรยานร่วมกัน ถ้าใส่ใจกัน ดูแลกัน แม้จะปั่นจักรยานคนละคันแต่นั่นคือเวลาคุณภาพ

.


แบบฝึกหัด
ทั้งหมดนี้คือ 5 ภาษารัก ของ ดร.แกรี่ แชปแมน สิ่งที่อยากชวนพวกเราทำมี 2 อย่าง


∙ ชวนให้พวกเราลองกลับมาสังเกตตัวเองว่า เราถนัดภาษาไหนใน 5 ภาษานี้ กับพ่อแม่เราอาจจะถนัดภาษาหนึ่ง แต่กับคนรักเราอาจจะถนัดอีกภาษา กับเพื่อนร่วมงานล่ะ เราบอกรักอย่างไร — เมื่อเห็นภาษาที่เราถนัดแล้ว ก็ชวนให้พวกเราลองฝึกภาษาที่ยังไม่ถนัดด้วย มันอาจจะเก้ๆ กังๆ ขัดๆ เขินๆ ลองดูค่ะ


∙ ลองสังเกต หรือลองถามคนใกล้ตัวของเราว่า เขาอยากได้ความรักจากเราด้วยภาษาไหนใน 5 ภาษานี้


∙ ชวนกลับมาถามตัวเองว่า เราอยากให้คนที่เรารัก คนที่แวดล้อมเรา บอกรักกับเราด้วยภาษาไหน


∙ ชวนให้เราสังเกตคนใกล้ตัวว่า เขามักจะบอกรักเราด้วยภาษาไหน — ลองปรับ-จูนเครื่องรับของเรา เพื่อรับคลื่นความรักของเขา


แบบฝึกหัดที่ชวนทำนี้ บางเรื่องอาจจะใช้เวลาอยู่บ้างแต่คุ้มค่าแก่การลงทุน เพราะเราเมื่อเราเริ่มปรับจูนเครื่องส่ง-เครื่องรับของเราได้ จะเห็นได้ว่ามีความรักที่รายล้อมตัวเราอยู่มากมาย เพียงแค่เรารับรู้ได้หรือไม่ได้เท่านั้นเอง หากเราเปิดเครื่องรับความรักในตัวของเราได้ เราจะมีความสุข และตัวของเราจะเต็มเปี่ยมด้วยความรัก


………………………………………………………………….

ผู้ที่สนใจอาจจะหาหนังสือ The Five Love Languages โดย Gary D. Chapman (เคล็ดลับสู่ความรักที่ยืนยาว แปลโดย กนกบรรณสาร สนพ.ซีเอ็ด)

ความสัมพันธ์

8 ช่องทางความสุข

ความสุขประเทศไทย

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save