8 ช่องทางความสุข

Soul Motion เมื่อจิตและกายเคลื่อนไหวเป็นหนึ่งเดียว

 ใจเป็นนาย กายเป็นบ่าว

เรามักได้ยินสำนวนนี้กันจนเคยชิน แต่ถ้าใครได้ลองมาสัมผัสการเต้นรำที่เรียกว่า Soul Motion แล้วละก็ คุณอาจเปลี่ยนคำพูดใหม่ว่า “ร่างกายก็มีปัญญาของตัวเองเช่นกัน”   

ข้างต้นเป็นคำพูดของวริวรรณ์ วิทยฐานกรณ์ หรือ ซอย หญิงสาวผู้เติบโตมาในครอบครัวนักธุรกิจชาวจีน เธอสนใจแนวคิดทางจิตวิทยาเพื่อทำความเข้าใจตนเองมาตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัย หลังจากเรียนจบปริญญาตรีด้านธุรกิจ เธอจึงเรียนต่อปริญญาโททางด้านจิตตปัญญาศึกษาที่มหาวิทยาลัยมหิดล  รวมทั้งสนใจหลักสูตรอบรมด้านจิตวิทยาหลากหลายแนวทาง

วันหนึ่งเธอมีโอกาสเดินทางไปที่เมืองพอร์ตแลนด์ ประเทศสหรัฐอเมริกาเพื่อศึกษางานด้านจิตวิทยาและจิตวิญญาณที่มีชื่อว่า Voice Dialogue ซึ่งศาสตร์ด้านการตระหนักรู้ การฝึกฝนการตระหนักรู้ผ่านการเคลื่อนไหวเป็นส่วนหนึ่งของหลักสูตรนี้ เธอจึงได้มีโอกาสเรียนรู้ และรู้จักการเต้นรำที่เรียกว่า Soul Motion ซึ่งสอนโดย Winky Wheeler เจ้าของหลักสูตรต้นตำรับ เธอบินลัดฟ้าไปมีประสบการณ์การเต้นในคลาสของ Winky อยู่เรื่อยๆ อย่างต่อเนื่องตลอด 3 ถึง 4 ปี ตั้งแต่เมื่อสิบปีที่แล้ว ด้วยความประทับใจ เธอจึงกลับมาชักชวนเพื่อนๆ กลุ่มเล็กๆ ในเมืองไทยให้ลองมาทำความรู้จักการเต้นแนวนี้ด้วยการนัดมาเต้นด้วยกันเมื่อครู Winky เปิดกิจกรรม Morning Sojourn ให้กับนักเต้นทั่วโลก

บทเรียนแรกตอนเริ่มทำความรู้จัก Soul Motion ทำให้เธอถึงกับ “ไปไม่เป็น”  เพราะเป็นการเต้นที่ไม่มีครูสอนท่าเต้น หรือแม้แต่เสต็ปการก้าวเดินตามจังหวะใดๆ พลิกโฉมตำราการเต้นรำแบบที่คุ้นเคยมาทั้งชีวิต จากที่เคยใช้สมองจดจำท่าทางและมุ่งมั่นกับการนับเสต็ปให้ตรงจังหวะเพลง กลับกลายเป็น “ความว่างเปล่า” เพราะไม่รู้ว่าจะจดจำอะไรดี คำว่า “อิสระ” กลายเป็นความเขินอายเข้ามาแทนที่ เหมือนกับมีสายตาคนรอบข้างจับจ้องท่าเต้นอันเป็นอิสระของเธอ 

“คลาสแรกไปถึงครูให้หยิบกลอนมาหนึ่งใบ อ่านแล้วให้สะท้อนความหมายออกมาว่าเรารู้สึกกับมันยังไง แล้วก็ให้เราเริ่มต้นการเต้นจากจุดนั้น โดยไม่มีท่าเต้นบังคับ”  หญิงสาวจากซีกโลกตะวันออกทบทวนความทรงจำครั้งเก่า

“ความยากคือมันเป็น free dance มากๆ เต้นอะไรก็ได้เลย ให้เราฟังเสียงร่างกายว่าต้องการจะเคลื่อนไหวยังไง เราเห็นความกลัวที่ชัดมากในตัวเรา ตอนแรกรู้สึกเขินๆ ที่ต้องเต้นกับคนที่ไม่เคยรู้จัก กลัวคนอื่นจะมองเรา เกร็งไปหมด ร่างกายและจิตใจเครียด แต่พอเราเต้นโดยไม่ต้องใช้สมองจดจำท่าทาง เราก็ได้พบอิสรภาพจากการออกจากกรอบเดิมๆ ทำให้เราหลุดจากกรอบความกลัว และเกิดความมั่นใจในตัวเองมากขึ้น เพราะแท้จริงแล้วไม่มีใครสนใจใครนอกจากโฟกัสไปที่ตนเอง แล้วปล่อยให้กายเคลื่อนไหวไปตามบทเพลงและความรู้สึกภายในอย่างเป็นธรรมชาติ” 

ที่น่าแปลกคือ แม้ว่าทุกคนจะเต้นอิสระแบบไร้ทิศทาง แต่กลับไม่มีใครเต้นไปชนกับใครจนเกิดความหงุดหงิดใส่กัน ทว่า บรรยากาศบนฟลอร์แห่งนี้กลับอบอวลไปด้วย  “เสรีภาพภายใต้การให้เกียรติซึ่งกันและกัน” 

เราจะมีกฎบางอย่างของสมาชิกที่มาเต้นด้วยกัน  จริงๆ เราสามารถเต้นคนเดียวก็ได้ เต้นกับคนอื่นก็ได้ เรารู้สึกว่ายิ่งเราไปเต้นฟลอร์ใหญ่ มีคนมากกว่า 40-50 คน ทำให้รู้ว่าแต่ละคนมีพลังของตัวเอง ทุกคนเป็นตัวของตัวเองได้ มีพื้นที่ให้กับการแสดงออกของตัวเองได้ มันทำให้เราเห็นปฏิกิริยาของใจเรา เวลาเราเต้นด้วยกัน ร่างกายของแต่ละคนมันเชื่อมโยงถึงกัน แบบไม่ต้องใช้ตาหรือคำพูด แต่ทุกคนเคารพกัน ให้อิสระในร่างกายกันและกัน

ภาษากายที่ทุกคนใช้สื่อสารเรียกว่า “energy language”  ซึ่งเป็นพลังงานที่เกิดจากการเคลื่อนไหวร่างกายบนฟลอร์เดียวกัน แม้ว่าระหว่างการเต้น ไม่มีใครส่งภาษาพูดคุยกันเลย แต่ทุกคนก็ดูเหมือน “เข้าใจกัน” ผ่านภาษากายและกลายเป็นเพื่อนกันหลังจบคลาส 

“เรามาใช้ร่างกายของเราร่วมกันที่นี่ แต่ละคนมาด้วยเป้าหมายต่างกัน บางครั้งเต้นไปก็น้ำตาไหลทั้งที่ไม่ได้มีเรื่องราวอัดอั้นตั้นใจอะไร บางครั้งก็นึกถึงความทรงจำในอดีตขึ้นมา การได้เต้นอย่างอิสระและปลดปล่อยอารมณ์ผ่านการเต้นเหมือนเราได้เยียวยาตัวเองไปด้วย”

หลังเรียนจบกลับมาเมืองไทย ซอยได้เป็นเจ้าภาพชักชวนเพื่อนๆ มาทำความรู้จักการเต้นแบบจิตและกายเป็นหนึ่งเดียวผ่านกิจกรรมคอร์สออนไลน์ของครู Winky ซึ่งจัดโปรแกรมเปิดเพลงที่ครูเรียบเรียงมาให้ผ่านอินเทอร์เน็ตและนัดหมายเวลาให้ทุกคนที่อยู่ทั่วโลกได้มาเต้นผ่านบทเพลงเดียวกันตามเวลาเช้าของประเทศต่างๆ ติดต่อกันเป็นเวลา 10 – 12 วัน ครั้งละหนึ่งชั่วโมงโดยจะจัดปีละสองครั้งช่วงต้นปีกับกลางปี

“พอถึงเวลา เราสามารถล็อคอินเข้าเว็บเปิดเพลงมิวสิคชุดใหม่ของแต่ละวันแล้วเต้นที่บ้านของตัวเองก็ได้ แต่เมื่อมีโอกาส เราจะหาสตูดิโอนัดมาเต้นด้วยกัน คุณสามารถติดตามข่าวสารจาก The Morning Sojourn Facebook Page หรือ website http://www.themorningsojourn.com/ แม้คุณไม่รู้จัก Soul Motion คุณก็มาเต้นได้ ตอนลงทะเบียนจะมีคู่มือและตารางให้เราจดบันทึกว่าวันนี้มันเกิดอะไรขึ้นกับร่างกายเราบ้าง เราค้นพบอะไรใหม่สังเกตเห็นอะไรบ้าง”

ด้วยเพราะเป้าหมายของการเต้น Soul Motion ไม่ใช่สุขภาพแต่เป็นการเชื่อมโยงกายและจิตเข้าด้วยกัน ดังนั้น ท่าเต้นจึงไม่สำคัญเท่ากับการ “สังเกต” จิตของตนเองที่แปรเปลี่ยนไปตามการเคลื่อนไหวของร่างกาย เมื่อร่างกายพลิ้วไหวไปตามเสียงดนตรี หัวใจของคุณรู้สึกพลิ้วไหว และปลดปล่อยอย่างเป็นอิสระไปด้วยหรือไม่ การเฝ้ามองจิตที่เปลี่ยนไปตามสภาวะร่างกายคือเป้าหมายหลักของการเต้นนี้นั่นเอง  

เราได้เห็นสภาวะของเราผ่านการเคลื่อนไหว เห็นการทำงานของจิต เห็นว่ากายก็มีปัญญาของตัวเอง เคลื่อนไหวด้วยตัวของกายเองได้ ทำให้เราไม่หงุดหงิด ไม่อารมณ์เสีย พอความขุ่นมัวในใจไม่มี ใจก็โปร่ง การเต้นมีผลต่อร่างกายมากๆ เรารู้สึกว่าการเต้นลิงค์กับเราได้ทุกช่องทางไม่ใช่เฉพาะกับทางร่างกาย physical – mental – emotional – spiritual ทั้งหมดเลย เพลงที่ใช้ก็จะมีบรรเลงบ้าง ร้องบ้าง จังหวะต่างๆ กัน ซึ่งครู Winky ได้เลือกจัดชุดเพลงมาอย่างดีและทรงพลัง

สิ่งที่เธอได้เรียนรู้ถึงความเปลี่ยนแปลงในตัวเองหลังการเต้น Soul Motion กับครู Winky คือ การใช้ชีวิตอย่างเป็นธรรมชาติมากขึ้น ปล่อยความรู้สึกให้เป็นอิสระโดยไม่ต้องกังวลต่อสายตาคนอื่นเสียงวิพากษ์วิจารณ์ภายในลดลง         

“การเต้นเป็นด่านแรกที่ทำให้เราเข้าใจคำว่าอิสรภาพและความเป็นธรรมชาติจากข้างใน  ทำให้เกิดความลื่นไหลในชีวิตมากขึ้น เวลาเราเดินไปเจอผู้คนหรืออะไรก็ตาม เราก็พร้อมที่จะให้พื้นที่คนอื่น เคารพในพื้นที่ของคนอื่นมากขึ้น เหมือนเวลาเราเต้นบนฟลอร์แบบอิสระ โดยที่เราไม่ชนกัน เพราะเราเคารพพื้นที่ของกันและกัน”

หญิงสาวผู้หลงรักการเต้นแบบ Soul Motion กล่าวทิ้งท้ายเอาไว้ว่า

“ซอยคิดว่าจิตไม่ได้เป็นนาย และกายไม่ได้เป็นบ่าว แต่จิตและกายมีปฏิสัมพันธ์แบบเกื้อกูล ไม่มีสิ่งไหนอยู่เหนือสิ่งไหน กายก็สามารถดำเนินชีวิตได้โดยจิตไม่ต้องสั่งก็ได้ การเต้นทำให้เรารู้สึกมีอิสระและอารมณ์ดีมากขึ้น เมื่อก่อนเรายังมีกรอบให้ตัวเอง แต่หลังจากได้ฝึกเต้นแนวนี้แล้ว เราใช้ชีวิตแบบอิสระและเป็นธรรมชาติมากขึ้น ไม่ต้องกังวลว่าใครจะมองเรายังไง แต่ขณะเดียวกัน เราก็เคารพผู้อื่นมากขึ้นด้วยเช่นกัน”

หมายเหตุ – ท่านที่สนใจการเต้นรำแบบ Soul Motion สามารถศึกษาเพิ่มเติมได้ที่ https://soulmotion.com/

การเคลื่อนไหวร่างกาย

8 ช่องทางความสุข

ความสุขประเทศไทย

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save