สร้างสมดุลใจกายด้วย ‘โยคะ’
หากจะเอ่ยถึงกิจกรรมการเคลื่อนไหวร่างกายที่ได้รับความนิยม และได้รับความเชื่อมั่นว่าผู้ฝึกจะได้สมาธิจากการฝึกอย่างยิ่งยวด หนึ่งในนั้นจะต้องมีชื่อของ ‘โยคะ’ อยู่ในลำดับต้นๆ อย่างแน่นอน
มีหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่พบว่า ‘โยคะ’ เกิดขึ้นตั้งแต่สมัย 2,500 ปีก่อนพุทธกาล แรกเริ่มเดิมทีเป็นวิถีของพราหมณ์หรือโยคี ที่ใช้ในการฝึกฝนควบคุมจิตให้นิ่งจนเกิดเป็นสมาธิ โยคะในยุคแรกไม่มีท่าทางใดๆ มากที่สุดเป็นแต่เพียงการฝึกสำรวมร่างกายให้เกิดความสมดุลที่สุด เพื่อฝึกให้ลมหายใจหรือปราณเกิดภาวะ ‘นิ่ง’ ที่สุด เข้าสู่การเพ่ง ฌาน หรือสมาธิ
จนกระทั่งถึงประมาณปี พ.ศ.2400 ประเทศอินเดียเริ่มมีการฟื้นฟูหลังถูกอังกฤษปกครอง กษัตริย์อินเดียในขณะนั้น เกิดความคิดให้ครูโยคะท่านหนึ่งซึ่งมีชื่อเสียงโด่งดังมากคือ กฤษณะมาจารยา นำเอายิมนาสติกและศิลปะป้องกันตัวแบบอินเดียโบราณ มาปรับประยุกต์ให้เข้ากับโยคะแบบดั้งเดิม จุดประสงค์เพื่อให้โยคะมีประโยชน์เพ่ิมขึ้น นอกจากการพัฒนาจิตแล้ว ยังได้พัฒนาร่างกายให้แข็งแรงด้วย
และนี่เองคือจุดเริ่มต้นที่ทำให้โยคะแพร่หลายไปยังประเทศทางตะวันตก พัฒนาต่อยอดจนเกิดเป็นหลักสูตรโยคะท่าสวยๆ ที่เราเห็นกันหลากหลายละลานตา ทั้งตามโรงเรียนสอนโยคะ ฟิตเนส และสถานออกกำลังกายในปัจจุบัน
อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าโยคะจะพัฒนาไปจนเกิดท่าทางที่ซับซ้อนพิสดารเพียงใด สิ่งที่โดดเด่นที่สุดที่ผู้ฝึกโยคะทุกคนล้วนได้รับตรงกัน ไม่ว่าจะเป็นสมัยใด ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีมากที่สุดก็คือ ‘สมาธิ‘ อันจะนำไปสู่การค้นพบสุขภาวะทางปัญญา ซึ่งจะพาเราไปถึงหนทางแห่งความสุขที่ยั่งยืน