ณ หมู่บ้านเล็กๆ แห่งหนึ่งในจังหวัดบุรีรัมย์ ย้อนกลับไปเมื่อ 32 ปีก่อน เด็กหญิงกรองแก้ว ชัยอาคม หรือ อุ๊ ลืมตาดูโลกด้วยขนาดตัวใหญ่กว่าฝ่ามือเพียงนิดเดียว ด้วยขนาดตัวเล็กจิ๋ว หูได้ยินเสียงแผ่วเบา และเสียงเล็กแหลมเหมือนเด็กน้อย เธอจึงรู้สึกอายไม่กล้าคุยกับใครจนคนส่วนใหญ่คิดว่าเธอเป็นคนใบ้ เมื่อเริ่มเข้าสู่วัยเรียน เด็กหญิงตัวจิ๋วมักกลับถึงบ้านพร้อมคราบน้ำตาเปรอะเปื้อนบนสองแก้ม เพราะถูกเพื่อนล้อเลียน แกล้งตีและผลักเป็นประจำจนกลายเป็นตัวตลกประจำห้อง แต่หากย่างเท้ากลับเข้าบ้านเมื่อไหร่
ณ เรือนจำหญิง จังหวัดเชียงใหม่ บทเพลง “คนดีไม่มีวันตาย” ถูกถ่ายทอดผ่านเสียงร้องของผู้ต้องขังหญิงอย่างทรงพลัง ความหมายของบทเพลงลึกซึ้งกินใจจนคนร้องและคนฟังน้ำตาซึม “…จะปิดทองหลังองค์พระปฏิมา จะยอมรับโชคชะตาไม่ว่าดีร้าย ไม่มีใครอยู่ค้ำฟ้าถึงเวลาก็ต้องไป เหลือไว้แต่คุณงามความดี ขอเทิดทูนศักดิ์ศรียิ่งสิ่งใด แม้แต่ลมหายใจก็ยอมพลี
บนถนนจากจังหวัดเชียงใหม่ถึงตำบลปาดังเบซาร์ จังหวัดสงขลาระยะทางกว่า 1,600 กิโลเมตร ชายหนุ่มวัยกลางคนพร้อมเพื่อนร่วมทีมตัดสินใจเดินทางไกลจากดินแดนตอนเหนือสู่ปลายด้ามขวานเพื่อช่วยเหลือสุนัขบาดเจ็บเพราะถูกคนทำร้ายและมีคนแจ้งข่าวไว้ในโลกโซเชียลมาแล้วหลายวัน แต่ยังไม่มีใครสามารถเข้าช่วยเหลือมันได้ หลังจากเดินทางข้ามวันข้ามคืนไปถึงจุดหมาย ชายหนุ่มเฝ้าติดตามสุนัขเป้าหมายจนเจอและพานำกลับมารักษาตัวที่เชียงใหม่ได้ตามที่ตั้งใจ แม้ว่าบางคนอาจตั้งคำถามถึงความคุ้มค่าของเวลาและค่าใช้จ่ายสำหรับการช่วยสุนัขตัวนี้ แต่สำหรับผู้ชายที่ชื่อบัณฑิต หมื่นเรือคำ หรือ ดิ๊พ ประธานมูลนิธิ ดิ อาร์ค แล้ว เขามีคำตอบสุดท้ายให้ตนเองอย่างชัดเจนว่า คุณค่าของความช่วยเหลือระหว่างคนและสุนัขเพื่อให้รอดพ้นจากความทุกข์ทรมานมีค่าเท่ากับ “หนึ่งชีวิต”